การลงทุนในหุ้นที่เรารู้จักเป็นอะไรที่ถูกต้องแล้ว ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเราควรลงทุนในหุ้นที่เรารู้จักหรือมีความเข้าใจอยู่ มากกว่าการไปลงทุนในหุ้นที่เราไม่รู้จักหรืออุตสาหกรรมที่เราไม่เข้าใจ จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วการไปลงทุนในกิจการที่ไม่เข้าใจเราจะควบคุมสติไม่ให้ตกใจยากครับ เพราะพอไม่มีข้อมูลก็เลยไม่รู้จะไปมั่นใจได้ยังไงว่าที่เราลงทุนไปน่ะถูกต้องแล้ว ดังนั้นผมสนับสนุนการลงทุนในสิ่งที่เรามีความเข้าใจมาโดยตลอดครับ แต่ทีนี้บางทีผมก็จะได้ยินความคิดแปลกๆจากนักลงทุนบางท่าน ก็เลยอยากจะเขียนสิ่งที่คุณควรระวังในการลงทุนหุ้นที่คุณรู้จักเอาไว้ครับ
อย่างแรกเลย ลงทุนในหุ้นที่เรารู้จัก ไม่ได้หมายความว่าซื้อทันที ต่อให้คุณรู้จักสินค้าหรือบริการของบริษัทนั้นๆเป็นอย่างดี คุณเห็นคนต่อคิวเข้าร้านยาวออกมาบนถนน หรือสินค้าบริษัทนี้มีคนใช้มาตลอด เราก็ยังต้องทำการศึกษาครับ ไม่ใช่ซื้อทันทีแน่นอน หนึ่งในหนังสือที่ผมเคยอ่านอย่าง “One up on Wall Street” ของ Peter Lynch เค้าบอกว่าคนทั่วไปได้เปรียบพวกผู้จัดการกองทุนเพราะว่าเวลามีสินค้าใหม่ๆที่ขายดี คนทั่วไปจะรู้ก่อน และดังนั้นจึงสามารถลงทุนได้ดีกว่าพวกนักลงทุนอาชีพโดยการลงทุนในหุ้นที่เรามีความเข้าใจ แต่ในหนังสือก็เขียนชัดเจนมากครับว่า เราต้องไปศึกษาจริงจังก่อนที่จะลงทุน ไม่มีการซี้ซั้วลงทุนโดยไม่ไปอ่านงบบัญชีและทำการประมาณการมูลค่าก่อนครับ บริษัทอาจจะยอดเยี่ยมจริงแต่ราคาก็แพงจนเกินเหตุก็เป็นไปได้ น่าเสียดายที่นักลงทุนบางท่านมาถูกทางละแต่ดันขี้เกียจทำการบ้านหรืออะไรผมก็ไม่ทราบ บางท่านบอกผมว่าเค้าซื้อเลยแล้วถือยาว งบการเงินอะไรไม่เคยดูทั้งนั้นแล้วบอกว่าเป็นการลงทุนแบบ VI เล่นเอาผมงงเหมือนกัน
อย่างที่สองที่ต้องระวัง และอันนี้ผมก็เป็นคือ การที่เราลำเอียงเพราะรู้จักอยู่ก่อนครับ หมายถึงว่าพอเรารู้จักสินค้ารู้จักกิจการของหุ้นหนึ่ง ทำให้เรามีทัศนคติที่ดีหรือแย่เกินไปกับหุ้นตัวนั้น บางทีเราก็มั่นใจเกินไปเพราะถือว่ารู้จักอยู่แล้วครับ ทำให้เราขี้เกียจและไม่ได้ดูรายละเอียดของหุ้นนั้นๆเท่าที่ควร อย่างในอเมริกานี่เค้ามีการศึกษาเลยนะครับว่า คนมักจะลงทุน 25-30% ของเงินลงทุนในบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ และก็มีตัวอย่างของพนักงานในบริษัทใหญ่ดังๆที่เจ๊งเช่น Enron, WorldCom ที่สูญเสียเงินเก็บเกือบทั้งชีวิตไปเพราะลงทุนในหุ้นบริษัทตัวเอง ต้องสังเกตว่านี่ขนาดว่าทำงานอยู่ข้างในแล้วนะครับ ถ้าลองคิดดูคนกลุ่มที่ทำงานอยู่ข้างในน่าจะทราบข้อมูลมากกว่าพวกเราข้างนอก และน่าจะพอเอะใจบ้าง แต่ในความเป็นจริงคือคนข้างในก็เจ๊งเละเทะเหมือนกันหมด เนี่ยครับสิ่งที่เราคุ้นเคยมันก็ทำให้เราลำเอียงได้นะ อันนี้ต้องระวัง
สรุปว่า เราต้องเข้าใจในสิ่งที่เราลงทุนครับไม่ใช่แค่รู้จัก เงินของเราเราต้องรับผิดชอบ ใส่ใจกันดีกว่าครับ อย่าไปเสียเงินกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง โดยเฉพาะเหตุจากความขี้เกียจละเลยของเราเองด้วยนี่ยิ่งน่าเจ็บใจเข้าไปใหญ่ครับ คนเราเรียนรู้จากข้อผิดพลาดใช่ครับ แต่เป็นไปได้เอาให้ผิดพลาดน้อยที่สุดดีกว่าครับ
Please note: I reserve the right to delete comments that are offensive or off-topic.