เป็นชุดคำถามสุดฮิตอีกเช่นกัน ผมโดนถามคำถามลักษณะนี้บ่อยมาก และเข้าใจความรู้สึกดีเลยแหละ วันนี้เรามาตอบคำถามหมวดนี้กัน
เราก็รู้กันใช่มั้ยครับ ว่าโดยหลักการแล้วคือเราควรซื้อหุ้นเวลาที่มันราคาถูก และแน่นอนว่าเวลาหุ้นตกเนี่ยก็เป็นเวลาที่ดีที่จะไปหาของถูก แต่ทีนี้พอในทางปฏิบัติคนส่วนใหญ่ทำตามหลักการนี้ได้น้อย สุดท้ายไม่ได้ซื้อ อารมณ์ที่ทำให้ไม่ได้ซื้อมันจะมีอยู่สองแบบ แบบนึงมาจากความกลัว กับอีกแบบมาจากความโลภ เรามาตอบกันทีละอย่าง
คำถาม แต่ถ้าหุ้นมันตกรุนแรง เราจะกล้าเข้าไปซื้อเหรอ
ผมว่าประเด็นแบบนี้แก้ง่าย สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือเราต้องรู้มูลค่าคร่าวๆของหุ้นที่เรากำลังจะซื้อ
ให้เห็นภาพง่ายๆ ลองเปรียบเทียบประโยคสองประโยคนี้
“หุ้น A ก่อนหน้านี้ราคา 10 บาท ตอนนี้ตกมาเป็น 7 บาทละ”
“หุ้น A ก่อนหน้านี้ราคา 10 บาท เรารู้ว่ามูลค่ามันคือประมาณ 9 บาทแน่นอน ตอนนี้ตกมาเป็น 7 บาทละ”
ประโยคแรก เราอาจจะไม่กล้าซื้อเพราะ หุ้นที่ตกลงมาเป็น 7 บาท มันอาจจะตกลงไปอีกก็ได้ ในความเป็นจริงราคาที่ตกลงมานี้ก็อาจจะแพงอยู่ดีก็ได้ เราไม่มีอะไรเป็นเกณฑ์วัดเลยว่าตอนนี้มันถูกหรือมันแพง มันก็จะเคว้งครับ ดังนั้นมันก็เป็นธรรมชาติที่เราจะไม่กล้าซื้อแม้ว่าราคามันจะตกลงมา 30% แล้วก็ตาม
แต่ประโยคที่สองนี่ไม่เหมือนกัน เราจะกล้าซื้อมากขึ้น เพราะเรามีเกณฑ์วัดแล้วไง เราบอกได้ว่า “เฮ้ย ด้วยกิจการทำได้ดีแบบนี้ มูลค่ามันน่าจะอยู่ 9 บาทนะ ตอนนี้ราคา 7 บาท ซื้อไปไม่ช้าก็เร็วจะกำไรแน่นอน” แน่นอนมันอาจจะตกลงไปอีกก็ได้ แต่ที่จุดนี้คือกำไรแน่นอนแล้วไง
จะเห็นว่าสองประโยคนี้ต่างกันรุนแรงมาก จุดเดียวที่แตกต่างคือเรารู้มูลค่าของสิ่งที่เรากำลังจะซื้ออยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง และดังนั้นความสามารถในการประมาณการณ์มูลค่าของหุ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญมากถ้าเราจะรวยจากการลงทุนในหุ้น
ดังนั้นเวลารู้สึกไม่กล้าซื้อ ทั้งที่ราคาอยู่ในระยะที่เราดูไว้แล้วว่าซื้อได้ ต้องย้อนกลับมาดูว่าเราทำการบ้านเกี่ยวกับหุ้นนั้นมาดีหรือยัง ทบทวนสิ่งที่เรารู้ในหัวอีกที เอาให้ชัดๆว่าทำไมเราถึงจะซื้อหุ้นนี้ ตอบตัวเองให้จบอ่ะครับ
ปล. เหตุผลหยาบๆประมาณว่า “คิดว่าหุ้นนี้น่าจะขึ้น” เป็นคำตอบที่ใช้ไม่ได้ เอาให้มันละเอียดกว่านี้ เพราะอะไรล่ะ
คำถาม ราคามันอาจจะตกลงไปอีก เราอาจจะซื้อได้ถูกลงไปอีกก็ได้นะ รออีกหน่อยดีมั้ย
อันนี้ยอมรับว่าผมก็เป็นครับ คือโลภไง กลับกันกับอันที่แล้ว อารมณ์มันจะเป็นว่ารู้แล้วแหละว่าซื้อตอนนี้กำไร แต่มันก็อาจจะตกไปอีกนะ ถ้าซื้อได้ถูกลงอีกกำไรก็จะเยอะขึ้นอีก อย่าเพิ่งซื้อเลยรออีกหน่อยดีมั้ย แล้วสมมติมันเกิดตกลงมาอีกจริงๆ เราก็จะยังโลภอยู่ดี กลับไปวนตรง “มันอาจจะตกไปอีกนะ” ใหม่ ผมว่าอาการนี้ผมไม่ได้เป็นคนเดียวแน่นอน
อาการแบบนี้ปกติผมแก้ไขด้วยการเตือนตัวเอง ยิงประเด็นหลักๆตามนี้
- “มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเล็งซื้อจุดที่ต่ำที่สุด เพราะมันไม่มีใครรู้อนาคต ต่อให้เป็น Warren Buffett เค้าก็ไม่รู้ สิ่งที่ควรทำคือซื้อจุดที่ต่ำเพียงพอต่างหาก”
- “stick to the plan” อย่าใช้อารมณ์ตัดสิน ทำตามแผนหรือกระบวนการตัดสินใจที่วางไว้แต่แรก เราวางไว้ดีแล้ว
- ที่สำคัญ ถ้าเกิดรอแล้วมันเสือกราคาวิ่งพรวดขึ้นล่ะ อาจจะกลายเป็นอดซื้อไปเลยก็ได้นะ แบบนั้นนี่โง่ชิบหายเลย
ปกตินึกเตือนตัวเองแบบนี้มันจะได้สติเองครับ โดยเฉพาะข้อสุดท้ายน่ะนะ ลองดูครับ
เท่าที่เคยเจอก็มีสองแบบเท่านี้แหละครับ หวังว่าจะช่วยให้เวลาจะซื้อคุมสติง่ายขึ้น