เป็นคำถามที่ดีมาก การเลือกลงทุนในหุ้นสองแบบนี้มันมาจากสายปัจจัยพื้นฐานทั้งคู่ซะด้วย เพื่อให้เข้าใจตรงกันเราอธิบายง่ายๆก่อนว่า
ไอเดียของการซื้อหุ้นมั่นคงราคาถูก คือเราพยายามเลือกซื้อหุ้นที่ค่อนข้างเสถียรทำกำไรสม่ำเสมอมั่นคง อาจเป็นบริษัทที่ใหญ่และเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วเติบโตช้าๆ มูลค่าคงที่คาดเดาได้ง่าย แล้วอาศัยซื้อเอาเวลาที่ราคาตกต่ำหรือคนตกใจเอา
ส่วนไอเดียของการซื้อหุ้นเติบโต คือเราพยายามเลือกซื้อหุ้นที่อนาคตมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่าคาดเดาได้ยากกว่า ซื้อช่วงเวลาราคาปกติก็ได้
ความแตกต่าง ความเชื่อหลัก
การซื้อหุ้นมั่นคงราคาถูก ความเชื่อหลักคือให้ความสำคัญกับมูลค่าในวันนี้มากกว่าจะไปหวังการเติบโตในอนาคต ซื้อหุ้นให้ได้ราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าปัจจุบันไว้ก่อน
ส่วนการซื้อหุ้นเติบโต ความเชื่อหลักคือเน้นมองหาศักยภาพการเติบโตมากกว่าที่จะมองว่าบริษัทเป็นอย่างไรในตอนนี้ ซื้อหุ้นที่ราคาแพงเมื่อเทียบกับมูลค่าปัจจุบันก็ไม่เป็นไร เพราะในอนาคตถ้าบริษัทเติบโตขึ้นมาก มูลค่ากิจการก็จะเติบโตมากเช่นกัน
ความแตกต่าง ปัจจัยในการตัดสินใจ
สำหรับสายซื้อหุ้นมั่นคงราคาถูก สิ่งที่เน้นมองหาคืออัตราส่วนทางการเงินต่างๆเช่น รายได้, กำไรสุทธิ, กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน, การจ่ายปันผล, ทรัพย์สินที่จับต้องได้แปลงเป็นเงินได้ต่างอย่างพวกโรงงานหรือเครื่องจักร, ฯลฯ
ส่วนสายซื้อหุ้นเติบโต สิ่งที่เน้นคือการมองหาบริษัทที่อนาคตมีโอกาสเติบโต สายนี้จะมองความสามารถวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร, สินค้าใหม่ๆที่กำลังถูกพัฒนามาขายในอนาคต, แนวโน้มของอุตสาหกรรมในอนาคต, กลยุทธ์หรือรูปแบบธุรกิจใหม่, ฯลฯ
ความแตกต่าง ข้อดี
ลงทุนแบบซื้อหุ้นมั่นคงราคาถูกมักจะปลอดภัยกว่า เพราะการที่เน้นมองที่ปัจจุบันมากกว่า ทำให้หลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการเดาอนาคตได้ง่ายกว่า ไม่ได้แปลว่าไม่มองอนาคตเลย แต่อย่างน้อยคือมองแค่ว่าอนาคตบริษัทจะทำได้ดีใกล้เคียงเดิม ไม่ได้ต้องมองว่ามันจะทำได้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด
แต่สายซื้อหุ้นเติบโตกำไรดีกว่า บนความยากของการเดาอนาคต ถ้าเราเดาได้ถูกต้อง บริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจริง เงินลงทุนเราจะกำไรเยอะมาก ถ้าเดาถูกแล้วจะกำไร 100 – 200% ก็เป็นเรื่องปกติมาก บางทีอาจจะกำไรเป็น 1,000% ด้วยซ้ำ
แล้วสรุปอันไหนดีกว่ากัน
คำตอบคือไม่รู้ครับ มันแล้วแต่ความชอบส่วนตัวของคน ผมว่าสองไอเดียนี้มันก็โอเคทั้งคู่นะ ตราบใดที่เราให้ความสำคัญกับตัวธุรกิจแล้วศึกษามันอย่างจริงจังผมก็เชื่อว่ามันทำได้ทั้งสองแบบแหละ
แต่ส่วนตัวแล้วผมจะเป็นพวก เลือกซื้อหุ้นที่มั่นคงทำได้ดีสม่ำเสมอ แล้วไปพยายามหาจังหวะซื้อมันตอนราคาตก ส่วนตัวไม่ค่อยถนัดจะมาเล็งหาหุ้นเติบโตครับ นิยมความให้พอร์ตกำไรสม่ำเสมอมากว่านิยมความตื่นเต้นครับ