เสริมสร้างฐานะทางการเงิน 9 – การลงทุนสำหรับเป้าหมายระยะสั้นและกลาง

Improve your financial life 9 – Invest for Short and Intermediate Term Goals

ถ้าเน้นเอาแบบปลอดภัยสุดๆ  พวกเราอาจจะมองว่าการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับเป้าหมายระยะสั้น  คือการเลือกลงทุนแต่สินทรัพย์ที่ผลตอบแทนมีการรับประกันแน่นอนเท่านั้น  เช่นเงินฝากประจำ, กองทุนตลาดเงิน  ซึ่งก็เป็นอะไรที่เหมาะสมอยู่ถ้าเป้าหมายมันเป็นเป้าหมายที่สั้นมากๆ  แต่ถ้าเป้าหมายมีระยะเวลาเกิน 1-2 ปีแล้วละก็มันจะเริ่มไม่ดีละ  เพราะมูลค่าของเงินเราจะเริ่มโดนเงินเฟ้อบั่นทอนไป  ดังนั้นวันนี้เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับเป้าหมายระยะสั้นและกลางกัน

ต้องเข้าใจก่อนว่า  การลงทุนด้วยระยะเวลาสั้นยิ่งสั้น  มันก็ยิ่งมีโอกาสที่ผลตอบแทนจะแกว่งได้มาก  อย่างสมมติถ้าสังเกตดูตารางข้างล่างนี้

%e0%b8%aa%e0%b8%96%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%aa

สังเกตตรงผลตอบแทนหุ้นไทย  ถึงแม้ว่าในระยะยาวแล้วเฉลี่ย 18 ปีที่ผ่านมา  เราจะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.78% ต่อปี  ซึ่งโดยปกติผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยในระยะยาวเกิน 10 ปีขึ้นไปมันก็อยู่ประมาณนี้ 10-12% แล้วแต่ช่วงปีที่วัด  แต่ถ้าดูละเอียดลงไปในแต่ละปีย่อยมันจะมีการแกว่งรุนแรงมาก  แทบไม่มีปีไหนได้ผลตอบแทนเท่าค่าเฉลี่ย  ถ้าสมมติเราลงทุนระยะสั้นแค่ปีเดียว  เราอาจจะไปเจอปี 2000 หรือ 2008 เปรี้ยงเข้าไปมูลค่าพอร์ตเราหายไปเกือบครึ่ง  หรือถ้าเราโชคดีเจอปี 2003 หรือ 2009 มูลค่าพอร์ตเรานี่โตพรวดดูเซียนสุดๆ  การลงทุนระยะยิ่งสั้นผลตอบแทนมันจะยิ่งขึ้นกับโชค  ต่อให้เป็นตราสารหนี้ก็มีแกว่งอยู่ดีถึงแม้ว่าจะแกว่งรุนแรงน้อยกว่ามากก็ตาม

แล้วถ้างั้นสำหรับเป้าหมายที่มีระยะเวลาลงทุนไม่นานจะลงทุนยังไงดี

  1. อาจจะมีหุ้นอยู่ในพอร์ตบ้าง แต่ไม่ควรลงทุนในหุ้นเป็นสัดส่วนหลักของพอร์ต

ยิ่งเป้าหมายยิ่งใกล้  เราควรมีหุ้นในพอร์ตยิ่งน้อย  เพราะอย่างที่เห็นว่ามันแกว่งรุนแรงมาก  โดยส่วนตัวแนะนำว่าสมมติเป้าหมายเรามีเวลาให้ลงทุน 10 ปี  ตอนปีแรกๆอาจจะมีสัดส่วนหุ้นซัก 50% ได้  แต่พอเริ่มเหลือ 4-5 ปี  ก็ควรทยอยลดสัดส่วนของหุ้นให้เหลือน้อยลงอาจจะเป็น 20% พอ  ถ้าเหลือปีลงทุนแค่ปีเดียว  หุ้นก็อาจจะ 0% เลยก็ได้

  1. สำหรับเป้าหมายระยะสั้น (ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 2 ปี)

ถ้าระยะเวลามันสั้น  เน้นให้ความสำคัญกับความชัวร์ดีกว่าเน้นผลตอบแทนสูง  ถึงแม้ว่าตอนนี้ผลตอบแทนดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์จะต่ำมาก  แต่ก็ดีกว่าไปเสี่ยงเพราะเราใกล้จะต้องใช้เงินแล้ว  โดยปกติแนะนำให้ลงทุนในอะไรพวกที่ใกล้เคียงเงินสดแบบนี้

  • บัญชีเงินฝาก

  • บัญชีเงินฝากประจำ

  • กองทุนรวมตลาดเงิน

  1. สำหรับเป้าหมายระยะกลาง (ระยะเวลาลงทุน 3-10 ปี)

ถ้าระยะเวลามันพอมีแบบนี้เราถึงน่ามาคิดว่าจะทำไงให้ได้ผลตอบแทนดีขึ้น  ตอนนี้เราสามารถเสี่ยงได้มากขึ้น  เราอาจจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่ผลตอบแทนสูงกว่าพวกที่ใกล้เคียงเงินสด  แล้วถ้าสมมติระยะเวลาเรามีนานหน่อยค่อนไปทางใกล้ๆ 10 ปี  เราอาจจะสมควรเติมสัดส่วนของหุ้นเข้าไปด้วย

ถ้าเรามีเวลามากกว่า 2 ปี  แต่น้อยกว่า 5 ปี

ก็ยังควรจะเน้นปลอดภัยอยู่  แนะนำให้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เป็นหลัก  กองทุนตราสารหนี้บางปีก็อาจจะมีขาดทุนได้  แต่ก็ปกติจะแค่เล็กน้อยเท่านั้น  และโดยรวมจะกำไร  เหมาะกับระยะเวลาลงทุนของเรา  สินทรัพย์ที่ควรลงทุนก็อย่างเช่น

  • พวกใกล้เคียงเงินสดทั้งหลาย (ชุดเดียวกับเป้าหมายระยะสั้นข้างบน)

  • กองทุนตราสารหนี้รัฐบาลระยะสั้น

  • กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

  • กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง

ตัวอย่างเช่น  อาจจะจัดพอร์ตอะไรประมาณนี้

20%    พวกใกล้เคียงเงินสด

40%    กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

40%    กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง

ถ้าเรามีเวลาตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี

อาจจะมีตราสารทุนเข้ามาปนบ้าง  โดยเฉพาะถ้าระยะเวลาลงทุนค่อนไปทาง 10 ปี  แต่ถึงยังไงก็ควรจะมีพวกตราสารหนี้ระยะสั้นไว้พอสมควร  สินทรัพย์ที่ควรไปอยู่ในพอร์ตมี

  • พวกใกล้เคียงเงินสดทั้งหลาย (ชุดเดียวกับเป้าหมายระยะสั้นข้างบน)
  • กองทุนตราสารหนี้รัฐบาลระยะสั้น
  • กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น
  • กองทุนตราสารหนี้ระยะยาว
  • กองทุนผสมหุ้น 20-30%
  • กองทุนผสมหุ้น 50%
  • กองทุนหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ (แต่มีอย่าเยอะ)

อาจจะจัดพอร์ตประมาณนี้

20%    พวกใกล้เคียงเงินสด

20%    กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

40%    กองทุนตราสารหนี้ระยะยาว

20%    กองทุนดัชนีหุ้น SET 100

โดยปกติผมก็จะแนะนำประมาณนี้ครับ  อย่าลืมว่าสำหรับเป้าหมายระยะสั้นกับกลาง  ความปลอดภัยมาก่อนผลตอบแทนที่สูงเพราะเราไม่ได้มีเวลาเยอะสำหรับแก้ไขข้อผิดพลาดหรือรอให้ตลาดฟื้นตัว  แต่ก็ไม่ใช่ว่าเอาแต่ปลอดภัยอย่างเดียวจนมูลค่าเงินโดนเงินเฟ้อกินหมดครับ