ออปชั่นและฟิวเจอร์ในความเห็นผมเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ช่วงนี้ที่จัดสัมมนาพบว่ามีคนถามถึงเยอะขึ้น ชัดเจนเลยว่ามีคนเริ่มสนใจมากขึ้น น่าจะเป็นเพราะว่าการโฆษณาที่บอกว่า “มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง” คนก็เลยตื่นเต้นนึกว่าเป็นอะไรที่มีความเสี่ยงน้อย หรือเป็นอะไรที่มีโอกาสมากกว่า ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย
เราจะไม่พูดถึงรายละเอียดว่าออปชั่นกับฟิวเจอร์คืออะไรยืดยาว ไปอ่านเพิ่มเติมเอาเองได้ที่ http://www.tfex.co.th/th/ แต่โดยสรุปสาระสำคัญคือถ้าเราจะกำไร เราต้องเดาสองอย่างให้ถูกนั่นคือทิศทางกับเวลาซึ่งยากมาก ตัวออปชั่นกับฟิวเจอร์มีจุดควรระวังดังต่อไปนี้
-
มีโอกาสขาดทุนได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง
จริงอยู่ว่าออปชั่นกับฟิวเจอร์ มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง แต่ในทางกลับกัน มันก็มีโอกาสขาดทุนได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลงเหมือนกัน มันก็อยู่ที่เราคาดเดาถูกหรือผิดอยู่ดี ดังนั้นจริงๆประโยคที่เค้าโฆษณาก็เป็นความจริงนั่นแหละ เพียงแต่เค้าพูดไม่หมดเท่านั้น
-
มีโอกาสขาดทุนเป็นศูนย์ หรือกระทั่งติดลบ
อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ ขาดทุนจากหุ้นปกติมันจะไม่หนักหนามากถ้าบริษัทไม่เกิดล้มละลายกระทันหัน อย่างเลวร้ายสุดคือเงินต้นเป็น 0 ซึ่งในทางปฏิบัติมันยากเพราะกิจการมันไม่ได้โตพรวดพราดหรือเจ๊งวูบอะไรเร็วขนาดนั้น
แต่ถ้าเป็นออปชั่น เราสามารถขาดทุนเหลือ 0 เลยได้อย่างง่ายดาย เพราะออปชั่นเป็นการซื้อสิทธิ์ ถ้าถึงหมดเวลาตามสัญญา แล้วราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่เป็นไปตามที่เราคาด มูลค่าของตัวออปชั่นก็คือเป็นศูนย์ หรือก็คือเราเสียเงินไปทั้งหมด ไม่ได้อะไร
ยิ่งกว่าออปชั่นคือฟิวเจอร์ การลงทุนในฟิวเจอร์มันจะมี margin call บังคับให้เราต้องวางเงินเป็นหลักประกันเพิ่ม ในกรณีที่มูลค่าสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนไปทางที่เราขาดทุนเยอะๆ (เอาเป็นว่าไปอ่านกฎเอาเองนะ) และถ้ามูลค่าสินทรัพย์อ้างอิงเกิดไปคนละทางกับที่เราต้องการเยอะๆ เราอาจจะไม่ใช่ขาดทุนแค่เงินต้นเหลือ 0 นะ อาจจะขาดทุนหนักกว่านั้นเกินเงินต้นที่เรามีเป็นติดลบเลยก็ได้
-
และที่น่าเจ็บใจที่สุด คือมีโอกาสขาดทุนได้ทั้งที่เข้าใจถูก
ความอนาถที่แท้จริงของออปชั่นกับฟิวเจอร์เลยคือมันมีเวลากำหนด สัญญาพวกนี้มันจะมีหมดอายุชัดเจนไม่เหมือนกับการลงทุนในหุ้น แปลว่าถึงเราจะมีความรู้เกี่ยวกับหุ้น A รู้แน่นอนว่าเดี๋ยวราคามันจะขึ้นนะ กิจการจะทำได้ดีขึ้น แต่ถ้าเดาช่วงเวลาผิด คือบริษัทมันอาจจะทำได้ดีขึ้นช้ากว่าที่คาด หรือตลกกว่านั้นคือบริษัทฟื้นแล้วแหละแต่ตลาดยังไม่ตอบสนอง ก็กลายเป็นขาดทุนอยู่ดี ทั้งๆที่เราอาจจะเก่งโคตรเข้าใจถูก ซึ่งน่าเจ็บใจมาก
และด้วยเหตุผลเหล่านี้ ด้วยความหวังดีผมเลยไม่แนะนำให้ใครลงทุนในออปชั่นหรือฟิวเจอร์
Please note: I reserve the right to delete comments that are offensive or off-topic.