การลงทุนในหุ้น สุดท้ายคือเรากำลังเล่นกับอนาคต และเพราะไม่มีใครรู้อนาคต ความเสี่ยงเลยเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลงทุนในหุ้นแล้วกำไรไม่ยาก บางทีซื้อมั่วยังกำไรได้เลยครับ แต่การจะให้กำไรได้สม่ำเสมอไปนานๆมันต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี และขั้นตอนแรกเลยคือเราต้องเข้าใจก่อนว่ามันคืออะไร
สมัยตอนผมเรียนในมหาวิทยาลัยเค้าจะสอนว่า ความเสี่ยงวัดจากการเปลี่ยนแปลงรุนแรงของราคา หุ้นที่ราคาเปลี่ยนแปลงรุนแรงเมื่อเทียบกับตลาดคือมีความเสี่ยงเยอะ สำหรับคนที่เรียนไฟแนนซ์มาอันนี้ก็คือพวกเรื่อง Standard Deviation (SD) กับ (beta) นั่นแหละ
แต่หลังลงทุนมาซักระยะผมไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้เท่าไหร่ละ จากมุมมองผมคือนักวิชาการเค้าพยายามหาค่าอะไรซักอย่างที่วัดได้คำนวณได้มาใช้ เลยตกลงกันว่าใช้การเปลี่ยนแปลงของราคาเนื่องจากมันวัดได้ ไม่ใช่เพราะมันเท่ากับความเสี่ยงนะ แค่ว่าความเสี่ยงจริงมันวัดยาก ส่วนไอตัวการเปลี่ยนแปลงของราคามันวัดง่ายเฉยๆ
ปัญหาคือ นักลงทุนส่วนใหญ่เค้าไม่ได้สนใจ “การเปลี่ยนแปลงรุนแรงของราคา” ผมยังไม่เคยเจอนักลงทุนคนไหนบอกว่า “เค้าจะไม่ซื้อหุ้น A นะ เพราะหุ้น A ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงรุนแรงกว่าตลาด” ที่ผมเห็นคือคนจะกังวลเพราะเค้ากลัวว่าลงทุนไปแล้วจะเสียเงินมากกว่า คนบอกว่า “เค้าจะไม่ซื้อหุ้น A นะ เพราะดูแล้วโอกาสจะขาดทุนสูงกว่าโอกาสจะกำไร” โดยสรุปคือคนเค้าไม่ได้กลัวเรื่อง “ราคาเปลี่ยนแปลงรุนแรง” คนกลัวลงทุนแล้ว “เสียเงิน” ต่างหาก
ในสถานการณ์ปกติ นี่คือหลักการเกี่ยวกับความเสี่ยง
-
ความเสี่ยงเป็นเรื่องไม่ดี
นักลงทุนที่มีสติควรจะพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
-
ในการเลือกลงทุน ความเสี่ยงกับผลตอบแทนต้องสอดคล้องกัน
เนื่องจากตลาดโดยปกติคนไม่ชอบความเสี่ยง ดังนั้นโดยหลักการ การที่คนจะยอมรับเสี่ยงมากขึ้น การลงทุนนั้นมันต้องมีโอกาสทำผลตอบแทนที่สูงขึ้น เช่น ถ้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ผลตอบแทน 2% กับการซื้อหุ้นบริษัท Z คาดหวังผลตอบแทน 2% เท่ากัน คนในตลาดก็ควรจะขายหุ้นบริษัท Z แล้ววิ่งไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพราะพันธบัตรรัฐบาลความแน่นอนว่าจะได้เงินดีกว่าหุ้น Z และผลตอบแทนเท่ากัน จนทำให้ราคาหุ้น Z ต่ำลง ส่วนราคาพันธบัตรแพงขึ้น จนไปหยุดเมื่อผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลต่ำลงกับของหุ้น Z สูงขึ้น ถึงจุดที่คนมองว่าส่วนต่างผลตอบแทนคุ้มค่าที่จะเสี่ยงกับหุ้น Z
-
ในการพิจารณาผลตอบแทนที่เกิดขึ้น ดูผลตอบแทนอย่างเดียวไม่พอ ต้องดูความเสี่ยงประกอบด้วย
เช่น สมมติกองทุนที่เราลงทุนปีนี้กำไร 10% จะบอกว่าเค้าทำได้ดีหรือเปล่าเราต้องถามว่า ผลตอบแทนที่ได้มานี้ ได้มาจากความเสี่ยงแค่ไหน มาจากการลงทุนในตราสารหนี้หรือมาจากหุ้น มาจากหุ้นบริษัทใหญ่ที่กิจการสม่ำเสมอหรือมาจากบริษัทเล็กเพิ่งตั้ง มาจากหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องหรือมาจากลงทุนในทรัพย์สินที่ขายออกยาก มาจากการใช้เงินกู้เยอะหรือไม่ใช่เงินกู้เลย มาจากพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงหรือมาจากพอร์ตที่ลงทุนกระจุกอยู่ในบริษัทประเภทเดียว
วันนี้เอาเท่านี้ก่อน อันนี้เป็นปูพื้นฐานไอเดียเกี่ยวกับความเสี่ยง ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาขยายความเพิ่มเติมในบทความต่อไปครับ