คำถามคลาสสิก มีแทบทุกรอบที่จัดสัมมนา โดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องวิธีต่างๆในการวิเคราะห์การลงทุนแนวพื้นฐานนะ จะใช้วิธีคิดลดปันผล, คิดลดกระแสเงินสดหรือคิดลดกำไรสุทธิ จะใช้จำนวนปีจำกัดหรือไม่จำกัด ผมก็โอเคหมดแหละ เพราะสุดท้ายเรากำลังเดาอนาคต ดังนั้นมันไม่มีวิธีอะไรที่ชัวร์ 100% อยู่แล้ว แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการเอากราฟเทคนิคมาดูปนกับแนวพื้นฐานครับ
มันมีงานวิจัยศึกษาพยายามพิสูจน์ว่าการวิเคราะห์กราฟหรือวิเคราะห์เทคนิคได้ผลดีกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหรือไม่ ปรากฎว่ามันมีทั้งที่สรุปว่าได้ผล และก็มีที่สรุปว่าไม่ได้ผล เรียกว่าไม่ชัดเจน
ส่วนงานวิจัยที่ศึกษาวิธีการลงทุนแบบ VI ตั้งแต่ผมอ่านมายังไม่เคยเห็นงานวิจัยไหนที่ผลออกมาว่าลงทุนแนวนี้ไม่ได้ผลดีกว่าตลาด ชัดเจนว่าลงทุนแนวนี้ชนะตลาด
ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าทำไมเราถึงควรเอาวิธีการที่อาจจะไม่ได้ผล ไปใช้ปนกับวิธีการที่ได้ผล
มันเคยมีงานวิจัยด้วยครับ เค้าบอกว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์ที่มักจะพยายามมองหารูปแบบ (Apophenia) จนบางทีเรื่องที่ไม่มีแบบแผนเป็นการสุ่มมั่วล้วนๆ เราก็ยังอุตส่าห์ไปเห็นมันมีรูปแบบได้ ดังนั้นสำหรับคนที่เอาสายกราฟมาประกอบ เลยมักจะเมา คิดไปเองว่าเห็นเป็นรูปแบบนู่นนี่ แล้วมันต้องเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ ซึ่งผมว่าแทนที่จะช่วยการตัดสินใจเราให้แม่นยำขึ้น มันทำให้เราสับสนมากขึ้นมากกว่า
https://en.wikipedia.org/wiki/Apophenia
การลงทุนแนวเทคนิคกับการลงทุนแนวพื้นฐาน มันมาจากรากฐานความเชื่อคนละเรื่อง แนวเทคนิคพยายามเดาพฤติกรรมของคน ในขณะที่การลงทุนแนวพื้นฐานเป็นการตัดสินใจบนตัวธุรกิจ ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสอดคล้องอะไรกันเลย และถ้าสมมติเรามีฝีมือสามารถประมาณการมูลค่าของกิจการได้อย่างดีระดับหนึ่งแล้ว ผมก็ไม่เห็นประโยชน์ว่าทำไมเราถึงจะไปใช้พวกเครื่องมือทางเทคนิคที่อ้างอิงจิตวิทยาตลาดมาทำให้เกิดความสับสน ดังนั้นถ้าให้ผมสรุป อย่าเอากราฟเทคนิคมาดูปนกับการวิเคราะห์แนวพื้นฐานเลยครับ