จากตอนที่แล้วคุณจะทราบว่า ผมสอนลูกศิษย์ให้ซื้อเวลาธุรกิจปกติ แต่ราคาตกรุนแรงจากปัจจัยที่ไม่มีผลกับผลประกอบการ เพราะมันกำไรง่ายดีโดยไม่เสี่ยง ทีนี้ไหนๆก็เขียนหัวข้อนี้แล้ว ผมเลยอยากพูดถึงจังหวะการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว และที่ผ่านมาค่อนข้างปลอดภัยและกำไรง่ายกันครับ
ประเภทที่ 2: บริษัทที่ทำได้ดี แต่ราคาตกเพราะประสบปัญหาที่ดูชั่วคราวหรือแก้ไขไม่ยาก
กรณีประเภทนี้ต่างจากประเภท 1 ตรงที่ราคามันตกจากผลประกอบการที่แย่ลง มันมีปัญหาจริงเกิดขึ้น แต่สิ่งที่มันน่าสนใจคือถ้ามันเป็นปัญหาชั่วคราวไม่ใช่อะไรระยะยาว มันก็จะเป็นโอกาสที่เราจะทำกำไร เพราะถ้าเราซื้อแล้วรอจนปัญหามันหายไป บริษัทก็จะกำไรกลับมาเหมือนเดิม และแน่นอนเงินลงทุนเราก็จะกำไรงามไปด้วย
ตัวอย่างที่ดีอันนึงจากประสบการณ์ส่วนตัวคือหุ้น BCH (Bangkok Chain Hospital) ช่วงปีที่เค้าเปิดโรงพยาบาลใหม่ตรงแจ้งวัฒนะ แล้วปลายปีนั้นก็มีม๊อบไปปิดแจ้งวัฒนะพอดี ราคาหุ้นเลยตกพรวด ผมก็ซื้อเวลาแบบนั้นล่ะครับ เพราะแน่นอนว่ามีคนมาชุมนุมปิดถนนมันกระทบธุรกิจ ไม่มีคนไข้มาแน่นอน แต่มันจะปิดถนนได้ซักกี่ปี ผมว่ามันชั่วคราวดังนั้นก็เลยซื้อไป และว่าแล้วปีนึงต่อมาก็กำไรสบายๆ เพราะม๊อบเลิกไปละไงครับ
เหตุการณ์พวกนี้มันก็จะมีเป็นระยะนะ และมาได้หลายรูปแบบ เช่น โรงงานไฟไหม้, บริษัทรถยนต์โดนจับได้และถูกปรับเรื่องโกงการตรวจการปล่อยควันเสีย, บริษัทเครื่องมือแพทย์โดนฟ้องแพ้คดี, นโยบายรถคันแรก, ฯลฯ
โดยรวมจากประสบการณ์ผมพบว่าซื้อในจังหวะพวกนี้มันดีมากเลยครับ สำคัญอยู่สองอย่างคือ
- ต้องชัวร์ว่านี่มันเรื่องชั่วคราว ถ้าเกิดมันไม่ชั่วคราวแล้วเราลงทุนไปแล้วนี่มันจะเละครับ แต่ส่วนใหญ่ปัจจัยที่เป็นชั่วคราวมันดูง่ายอยู่แล้วล่ะ เรื่องนี้ไม่น่าจะพลาด
- ต้องกะว่าเรื่องชั่วคราวนี่มันจะหายไปเมื่อไหร่ เรื่องบางเรื่องมันส่งผลชั่วคราวแหละ แต่ชั่วคราวที่ว่านี่มันนานเหมือนกัน อย่างนโยบายรถคันแรกเป็นต้น นโยบายนี้ทำตลาดรถมือสองซบเซาไปเลย และมันชั่วคราวแน่นอน แต่ที่ยากหน่อยคือเดาว่าตลาดรถมือสองจะเริ่มฟื้นเมื่อไหร่มากกว่าครับ
สรุปง่ายๆ เอาเป็นว่าถ้าคุณเข้าซื้อหุ้นบริษัทที่ทำได้ดี แต่ช่วงนั้นราคาตกเพราะปัญหาชั่วคราว ปลายทางกำไรแค่ไหนไม่รู้ รอนานมั้ยไม่รู้แล้วแต่เหตุการณ์ แต่ที่แน่ๆหลังปัญหานั้นผ่านไปคุณก็จะกำไรแน่นอน ซึ่งผมว่ามันดีกว่านั่งเล่นของยากนะ