ถัดจากความเห็นผู้สอบบัญชี ก็จะมาถึงส่วนที่รายละเอียดเยอะของรายงานประจำปีละครับ มันจะเป็นงบการเงินส่วนใหญ่ตรงนี้คนมักมีปัญหาอ่านไม่รู้เรื่องเพราะจะเอารู้เรื่องจริงจังต้องมีความรู้บัญชีประกอบ แต่โจทย์วันนี้คือเราจะมาพูดถึงการดูอ่านจับใจความที่คนไม่มีพื้นฐานเรียนบัญชีมาอ่านรู้เรื่องก่อน (ซึ่งต้องบอกว่ารู้บัญชีจะดีกว่าเยอะเลย คนไม่รู้บัญชีเสียเปรียบมาก)
อันแรกที่เจอจะเป็นงบแสดงสถานะทางการเงิน ผมจะกวาดตาดูเรื่องดังต่อไปนี้
- ในหมวดสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน หาชื่อประมาณนี้ “ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์” แล้วดูว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเยอะมั้ย ถ้ามันเยอะแปลว่าน่าจะมีการลงทุนขยายอะไรซักอย่าง ต้องลองดูว่าสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริหารบอกว่าทำหรือเปล่า
- ดูหมวดหนี้สินไม่หมุนเวียน ดูรายการพวก “เงินกู้ยืมระยะยาวสถาบันการเงิน”, “เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร”, “หุ้นกู้” อันนี้คือเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรมีอะไรเยอะแยะ ดูว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเยอะมั้ย ถ้าเยอะก็ต้องดูว่าเป็นเพราะขยายกิจการอะไรหรือเปล่า
อันต่อมาเป็นงบกำไรขาดทุน ดูคร่าวๆเรื่องดังต่อไปนี้
- รายได้เพิ่มขึ้นมั้ย
- ต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ เพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นสัดส่วนเดียวกับรายได้หรือเปล่า เช่นถ้ารายได้เพิ่มขึ้น 10% ต้นทุนของหรือบริการที่ขายก็ควรจะเพิ่มขึ้น 10% ตาม ถ้ารายได้ลงลง 15% ต้นทุนของหรือบริการที่ขายก็ควรจะลดลง 15% ตาม ถ้ามันไม่ขยับในทิศทางเดียวกัน หรือคลาดเคลื่อนจากกันเยอะ อันนี้ก็ผิดปกติ
- ย้อนกลับไปหน้างบแสดงสถานะทางการเงิน เทียบสัดส่วนลูกหนี้การค้ากับรายได้ดูซิ สัดส่วนมันควรจะเท่าๆเดิมนะ เป็นไปได้เก็บเงินลูกค้าได้จะดีที่สุด ดังนั้นถ้าเห็นลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ก็แปลว่าน่าสงสัยละ
- กำไรสุทธิเพิ่มขี้นมั้ย
- กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่า เช่น รายได้เพิ่มขึ้น 20% โดยไอเดียกำไรสุทธิก็น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เหมือนกัน ถ้าสมมติรายได้เพิ่มขึ้นเยอะเลย 20% แต่กำไรสุทธิเท่าเดิม หรือเพิ่มน้อยมาก 5% อะไรงี้ เราก็ต้องเอะใจบ้างแล้วและหาว่ารายได้ที่ได้มา หายไปกับเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมกำไรไม่โตตามรายได้
- สังเกตหารายได้หรือรายจ่ายที่ไม่ใช่รายการปกติ เช่น กำไรหรือขาดทุนจากการขายทรัพย์สิน, กำไรหรือขาดทุนจากเงินประกันน้ำท่วม, กำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้หรือรายจ่ายกลุ่มนี้เป็นพวกตัวชั่วคราว อาจทำให้กำไรดูดีหรือแย่เกินความเป็นจริงได้
ถัดมาเป็นงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น
- พิจารณาตรง “ทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้ว” หรือชื่อประมาณนี้ ดูว่าไม่ได้เพิ่มขึ้น และถ้าเห็นว่าเพิ่มขึ้นให้ดูว่ามาจากสาเหตุอะไร ถ้ามาจากปันผลเป็นหุ้นไม่เป็นไร แต่ถ้ามาจากการออกหุ้นใหม่หรืออย่างอื่น อาจต้องสงสัยนิดนึงว่าเค้าจะออกหุ้นใหม่มาทำอะไร
สุดท้ายตรงส่วนงบกระแสเงินสด
- หมวดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานควรจะเป็นบวก เพราะดำเนินงานแล้วไม่ได้เงินไปเรื่อยๆมันเจ๊งแน่นอน
- หมวดการลงทุน โดยชื่อมันก็รู้อยู่แล้วว่าควรจะเป็นลบเพราะเราใช้เงินไปลงทุน ส่วนนี้สังเกตว่าลงทุนเรื่องอะไร เป็นการซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เหรอ หรือเป็นการลงทุนระยะยาวในบริษัทลูก หรือทำอะไร
- หมวดการจัดหาเงิน อันนี้ก็ดูว่ามีการกู้ยืมเงินเพิ่มเติมแค่ไหน เอาเงินไปทำอะไร คอยดูว่ามันไม่บ้าจนเกินไป
โดยรวมแล้ว ถ้าเป็นผมไม่รู้บัญชี ผมก็จะดูเรื่องหลักๆประมาณนี้แหละ จริงๆส่วนตรงนี้สำคัญมาก เราต้องการจะรู้ว่าทั้งหลายทั้งปวงสุดท้ายแล้วบริษัททำได้ดีแค่ไหนอย่างไร และมีอะไรผิดสังเกตไปบ้าง
ปล. ซึ่งถ้าเป็นไปได้บอกจากใจจริงด้วยความหวังดี ไปเรียนบัญชีพื้นฐานเถอะนะ ไม่ได้ต้องถึงขนาดลงบัญชีเองได้ แต่หัดให้อ่านรู้เรื่องเถอะครับ เราจะได้เปรียบคนอื่นอีกเยอะ จะบอกว่าปกติเรื่องนี้ผมมีเปิดคอร์สสอนด้วยนะ