ตลาดจะลงต่อมั้ยหรือจะฟื้น? | ซื้อตอนนี้เลยมั้ยหรือรอก่อนดี? | ซื้อเยอะๆ หรือซื้อแค่นิดเดียวก่อน
ช่วงนี้มีคนถามหลากหลายเรื่องควรจะซื้อหุ้นเลยมั้ยหรือควรจะรอ หรือควรจะซื้อบางส่วนแล้วกันไว้บางส่วน หรือควรจะขายก่อนมั้ยแล้วค่อยกลับเข้าไปซื้อตอนราคาตกไปเยอะๆ ฯลฯ วีดิโอนี้ผมรวบรวมคำถามลักษณะนี้มาตอบครับ
แต่เอาจริงๆเป็นอะไรที่ตอบยากมากเลยนะครับ เวลาผมลงทุนเองก็มีคิดลังเลกับคำถามแบบนี้เหมือนกัน บอกไว้ก่อนเลยว่าสิ่งที่ผมตอบมันจะเป็นความเห็นส่วนตัวเป็นหลัก สิ่งที่ผมตอบคือจะพยายามช่วยจัดลำดับความคิดให้คุณเท่านั้นเอง ไม่ได้จำเป็นที่คุณจะต้องเชื่อหรือเห็นด้วยหรือทำเหมือนกันนะ เพราะมันไม่มีใครรู้อนาคตไง และดังนั้นเรื่องพวกนี้มันก็เลยไม่มีถูกผิด มันมีแค่คุณสบายใจจะทำแบบไหนเท่านั้นเอง
ตลาดหุ้นจะตกต่อมั้ยหรือว่ามันจะฟื้น ?
คำตอบ : ผมไม่รู้ครับ และไม่มีใครรู้จริงๆหรอกครับ ทุกคนก็ได้แต่เดาเท่านั้น
ถ้าสมมติต้องให้เดาจริงๆ ในความเห็นผมคือเชื่อว่าน่าจะตกต่อนะ หลักๆแล้วเพราะการระบาดในอเมริกายังไม่จบและน่าจะรุนแรงมากขึ้น หุ้นตลาด US ก็น่าจะตกและทำให้ตลาดหุ้นอื่นทั่วโลกผวาไปด้วย กับเหตุผลรองลงมาคือคิดว่าผลของ lockdown หรือการให้คนอยู่กับบ้านจะมีผลกับธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งถึงแม้จะเชื่อว่าชั่วคราวแต่ก็คิดว่าน่าจะรุนแรงอยู่ ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาน่าจะเละ
ควรจะซื้อหุ้นตอนนี้เลยมั้ย หรือควรจะรอให้มันตก ?
คำตอบ : เราต้องมีเกณฑ์ในใจและยึดปฏิบัติตามนั้นครับไม่งั้นเราจะงงมาก เนื่องจากเราไม่รู้เลยว่าหุ้นจะตกต่ำลงไปอีกจริงหรือเปล่า แล้วสมมติเกิดว่ามันตกลงมาเพิ่มละ แล้วตรงนั้นควรจะซื้อเลยมั้ย มันก็จะถามไปได้เรื่อยๆไม่มีวันจบถ้าเราไม่มีเกณฑ์ในใจว่าสรุปราคาที่เราอยากได้คือเท่าไหร่กันแน่ มันต้องกำหนดเกณฑ์ตัวนี้ให้ได้น่ะครับ
คำว่ากำหนดเกณฑ์นี่คือมันจะเป็นตัววัดอะไรก็ได้เลยที่คุณตั้งขึ้นมาเพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าควรจะ take action อะไรหรือเปล่า เอาที่มันสมเหตุสมผลสำหรับคุณก็คือใช้ได้ เช่น
- บางคนอาจจะใช้ตัวมูลค่าที่แท้จริงที่มาจากการทำ Discounted Cash Flow เป็นตัววัด และเกณฑ์คือจะเริ่มซื้อถ้าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงที่คิดได้ซัก 20% และอาจจะซื้อเพิ่มถ้ามันตกลงไปอีก
- ตัวผมใช้ Projected Return หรือผลตอบแทนคาดหวังเป็นตัววัด เกณฑ์คือถ้าหุ้นเป็นบริษัทที่เราชอบธุรกิจและผลตอบแทนคาดหวังของการถือหุ้นนี้สูงกว่า 15% ต่อปีก็จะเริ่มซื้อ
- คุณพ่อผมใช้ Average P/E ของทั้ง SET ย้อนหลัง 10 ปีเป็นตัววัด และเกณฑ์คือถ้า P/E ปัจจุบันของ SET ต่ำกว่า Average P/E นั้นเค้าจะเริ่มซื้อกองทุนดัชนี SET และจะเริ่มซื้อมากขึ้นแบบ accelerated ถ้ายิ่ง P/E ปัจจุบันต่ำกว่า Average P/E เยอะขึ้นเรื่อยๆ
- บางคนก็อาจจะใช้ตัววัดคือราคาตกจาก peak กี่ % ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ เกณฑ์อาจเป็นถ้าราคาตกจาก peak ก่อนหน้านี้ 20% ภายในระยะเวลา 1 ปีจะเริ่มซื้อ
- บางคนอาจจะใช้ Dividend Yield เป็นตัววัด เกณฑ์คือต้องเป็นธุรกิจที่ชอบและที่ผ่านมาจ่ายปันผลทุกปีและถ้า Dividend Yield สูงกว่า 4% จะเริ่มซื้อ
อะไรแบบนี้เป็นต้น สรุปคือเกณฑ์มันจะเป็นอะไรก็ได้เลยเอาให้เราเป็นคนกำหนดเองและยึดปฏิบัติตามได้ก็โอเคละ และด้วยเกณฑ์ที่ชัดเจนนี้คำถามที่บอกว่าตอนนี้ควรซื้อเลยมั้ยหรือรอมันก็จะหายไป ถ้ามันถึงเกณฑ์ของคุณแล้วคุณก็ซื้อและถ้ามันยังไม่ถึงเกณฑ์คุณก็รอต่อไปก็เท่านั้นเอง
แล้วถ้าซื้อ ควรซื้อแค่นิดเดียวแล้วรอตกเพิ่มมั้ยหรือซื้อเยอะๆไปเลยดี ?
คำตอบ : อันนี้แล้วแต่ ผมแนะนำให้ลองถามตัวเองดูว่าระหว่างอันไหนจะเซ็งมากกว่ากัน
- ซื้อนิดเดียวแล้วมันไม่ตก ราคากลับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว อดซื้อหรือซื้อได้น้อย
- ซื้อเยอะแล้วมันตก ซื้อเพิ่มได้น้อยเพราะเงินเหลือไม่เยอะ พลาดโอกาสซื้อของดีราคาถูก
พอรู้ตัวว่าอันไหนแย่กว่า ก็ทำตัวสอดคล้องน่ะแหละครับ อย่างสมมติถ้าเป็นผม ผมรู้ตัวเลยว่าจะเซ็งกว่ามากถ้าซื้อไว้นิดเดียวแล้วปรากฎว่าราคามันขึ้นพรวดไปแล้วอดซื้อ เพราะผมมองว่าโอกาสตลาดตกแบบนี้มีไม่บ่อยหลายปีจะมีทีนึง และต่อให้เราซื้อมาแล้วราคามันตกไปอีกก็ไม่เป็นไรมากเพราะซื้อตอนนี้ก็กำไรดีมากละ ดังนั้นผมก็จะเทไปทางซื้อเยอะไว้ก่อนให้ไม่ต้องเสียดายทีหลัง มีเก็บเงินสดไว้ซื้อเพิ่มอีกไม่เยอะประมาณ 20-30% ของเงินสดทั้งหมดที่มีตอนแรกไว้ซื้อเพิ่มเผื่อที่ซื้อไปแล้วตกลงไปอีกซัก 15-20% หรือไม่งันก็ซื้อหุ้นอื่นที่ตอนแรกอาจจะยังตกไม่เยอะแต่อาจตกเยอะจนน่าสนใจในภายหลัง
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็แนะนำว่าทำที่คุณรู้สึกสบายใจแหละ และถ้าเป็นไปได้กำหนดกฎเอาไว้ล่วงหน้าเลยว่าจะซื้อกี่ % ของเงินที่มี สำรองไว้ซื้อตอนถูกลงกี่ % แล้วที่ว่าถูกลงจะซื้อเพิ่มนี่คือถูกลงแค่ไหน ซื้อเพิ่มแต่ละครั้งซื้อเท่าไหร่ แบบนี้เมื่อเวลาสถานการณ์จริงเกิดขึ้นจะได้ไม่ต้องสับสนคิดเยอะ
ช่วงนี้ตลาดตก ควรจะขายหุ้นออกมาก่อนแล้วกลับเข้าไปซื้อใหม่ตอนมันตกมามั้ย ?
คำตอบ : คล้ายๆกับข้อข้างบน ก็คือในเมื่อไม่มีทางรู้อนาคต ก็ลองถามตัวเองว่าอันไหนรับไม่ได้มากกว่ากันระหว่าง
- ขายแล้วปรากฎว่ามันไม่ตก ราคากลับขึ้นไป อดซื้อกลับเข้าไปหรือไม่ก็ซื้อกลับมาแพงกว่าเดิม
- ไม่ขายแล้วปรากฎว่ามันตกลงไปอีก เสียโอกาสตรงที่ถ้าออกมาก่อนก็จะมีเงินสดเยอะขึ้นและกลับเข้าไปซื้อได้ถูกลง
อันไหนรู้สึกแย่กว่าก็อย่าไปทำอันนั้น อย่างถ้าเป็นผมนี่เคยเจอประสบการณ์ตรงเลยว่าขายหุ้นบริษัทนึงออกมาด้วยความเชื่อว่าเดี๋ยวราคามันจะตกลงมาอีกแล้วน่าจะได้ซื้อราคาถูกลง ตอนนั้นขายมีกำไรประมาณ 15% ผลปรากฎว่ามันไม่ตกและผมก็พลาดหุ้นที่ถ้าถือจะกำไร 4 เท่าไป หลังจากนั้นมาเลยมีนโยบายว่าจะไม่เดาทิศทางตลาดหรือขายบริษัทที่เราคิดว่าซื้อมาถูกต้องแล้วแค่เพราะหวังว่าจะซื้อได้ถูกลงละครับ
แต่แน่นอนว่าคุณก็ไม่ต้องทำตามผมก็ได้ อาจจะขายบางส่วนเก็บไว้บางส่วนก็ได้ เอาที่ทำแล้วรู้สึกว่าสบายใจก็ทำอันนั้นแหละ ไม่มีผิดไม่มีถูกอยู่แล้วครับเรื่องนี้
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg