ที่เค้าพูดกันเรื่องเงินเฟ้อ กับ Bond Yield สูงขึ้นนั่นมันคืออะไร ?
ช่วงที่ผ่านมามีคนพูดถึงข่าวเรื่องเงินเฟ้อกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่สูงขึ้นในอเมริกา แล้วก็ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างจะมีผลทำให้หุ้นตก เลยมีคนอยากให้อธิบายเรื่องนี้ว่ามันเกี่ยวกันยังไง
ก่อนจะตอบคำถามต้องบอกก่อนว่าผมก็ไม่ใช่ว่าเข้าใจทุกอย่าง ผมอาจจะอธิบายจากมุมเศรษฐศาสตร์ได้บ้างเพราะเรียนมา แต่บางเรื่องอย่างอารมณ์ตลาดหรือจิตวิทยานี่ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
เราเริ่มจากตัวเงินเฟ้อก่อน เงินเฟ้อนี่หลักๆก็คือของโดยภาพรวมราคาแพงขึ้นเท่านั้นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วของมันจะแพงขึ้นมันก็มาได้จากสองแบบหลักๆคือ
- คนมีความต้องการเยอะขึ้น
- ต้นทุนการผลิตแพงขึ้น
ส่วนเรื่อง bond yield อัตราผลตอบแทนพันธบัตร มันก็คืออัตราส่วนระหว่างดอกเบี้ยที่คงที่ซึ่งกำหนดไว้แต่แรกเทียบกับราคาของพันธบัตรใช่มะ และในเมื่อตัวดอกเบี้ยนั่นไม่เปลี่ยนเพราะกำหนดไว้แต่แรกแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรมันก็เลยขึ้นกับราคาของพันธบัตรเป็นหลัก ถ้าราคาพันธบัตรแพงขึ้นก็แปลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็จะต่ำลง ถ้าราคาพันธบัตรต่ำลงก็แปลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็จะสูงขึ้น
ทีนี้อย่างกรณีของอเมริกาที่บอกเงินเฟ้อสูงขึ้น มันก็น่าจะตรงไปตรงมาคือมาจากการที่คนมีความต้องการเยอะขึ้น เพราะผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจากนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง
พอเงินเฟ้อสูง มันก็ไปทำให้พันธบัตรไม่น่าลงทุนเท่าไหร่ เพราะพันธบัตรผลตอบแทนมันคงที่กำหนดไว้แล้วถูกมะ ถ้าเงินเฟ้อสูงขึ้นราคาข้าวของสูงขึ้นกว่าที่คาด มันก็ทำให้ผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรน้อยลงด้วยไง คนเห็นแบบนี้ก็เลยขายพันธบัตร พอคนขายพันธบัตรก็ทำให้ราคาพันธบัตรต่ำลงอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสูงขึ้น
มาถึงตรงนี้ เรื่องมันก็สมเหตุสมผลดีไม่มีอะไร แต่ต่อจากตรงนี้ว่าแล้วมันกระทบกับหุ้นทำให้หุ้นตกได้ยังไง ก็เป็นอะไรที่ผมก็งงละ
ในเมื่อ bond yield สูงขึ้นเพราะคนไม่อยากถือพันธบัตร คนก็ต้องเอาเงินไปทำอย่างอื่นถูกมะ ถ้าถือเงินสดไว้เฉยๆอย่างงั้นก็ถือพันธบัตรดีกว่าเพราะเงินสดมันก็เจอเงินเฟ้ออยู่ดีไม่มีประโยชน์อะไร คนอาจจะเอาไปซื้อทองซึ่งอดีตที่ผ่านมาถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ดีเพราะราคามันก็ขึ้นตามเงินเฟ้อ หรือไม่งั้นก็ซื้อหุ้นเพราะถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นฟื้นตัวหรือเงินเฟ้อสูงขึ้น บริษัทก็จะกำไรดีขึ้นราคาหุ้นก็สูงขึ้น เป็นการป้องกันเงินเฟ้อได้ดีขึ้นเช่นกัน ดังนั้นถ้าตามเหตุและผลแล้วสถานการณ์ในเวลานี้มันควรจะดีกับหุ้นนะ
แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ กลายเป็นว่าหุ้นตกและคนก็ตกใจกลัวเงินเฟ้อกลัว bond yield สูงขึ้นอะไรซักอย่าง ผมก็งงเหมือนกัน เท่าที่อ่านดูในข่าว ดูเหมือนเหตุผลจะเป็นเพราะคนกลัวว่าถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัว + เงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างเร็วในอนาคต จะทำให้ธนาคารกลางออกมาเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเมื่อเพิ่มอัตราดอกเบี้ยก็จะทำให้ต้นทุนการยืมเงินสูงขึ้นบริษัทยืมเงินน้อยลงและทำให้คนสนใจออมเงินเยอะขึ้นใช้จ่ายน้อยลง บริษัทก็จะโตช้าลงและหุ้นอาจจะตก
ซึ่งผมก็ว่ามันแปลกๆนะ เพราะธนาคารกลางก็ออกมาบอกอยู่แล้วว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ปกติก็ไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้ว ความกังวลอันนี้ก็ดูห่างไกลยังไงไม่รู้ ในขณะที่วัคซีนดูได้ผลเศรษฐกิจก็น่าจะฟื้นและดีขึ้นหลังจากนั้น ปัจจัยในระยะสั้นนี่ชี้ไปยังการฟื้นตัวและดูจะสนับสนุนการถือหุ้นมากกว่านะ
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี