มาพิสูจน์กัน ! ลงทุนในบริษัทนิสัยดี (ESG สูง) ให้ผลตอบแทนดีกว่าจริงเหรอ?
ช่วงหลังมานี้ผมเริ่มได้ยินกระแสการลงทุนในบริษัท ESG สูง ซึ่งคือบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) บ่อยมากขึ้น จากเดิมที่ดูเรื่องกำไรขาดทุนอย่างเดียว ปัจจุบันเริ่มเห็นดัชนีที่เลือกบริษัทจดทะเบียนต่างๆจากคะแนน ESG หรือกองทุนรวมที่ลงทุนเน้นบริษัท ESG สูงเยอะขึ้นกว่าในอดีตมาก และมีพี่ที่ทำงานเก่าท่านนึงเคยพูดถึงกองทุน UOBCG ว่าผลตอบแทนดีมาก
ฝ่ายที่บอก ESG สูงจะมีผลตอบแทนดีกว่าก็ให้เหตุผลประมาณว่า
- เป็นการผลักดันให้บริษัทมองหาวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการสิ้นเปลือง
- การที่บริษัททำดีต่อผู้คน ทำให้พนักงานในบริษัททำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น ผลลัพธ์ดีขึ้น
- การที่บริษัทปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเป็นธรรม ทำให้ได้รับการเชื่อใจจากผู้บริโภคและสังคมมากขึ้น
- บริษัทที่มีเวลาและเงินมาสนใจเรื่อง ESG ก็ต้องเป็นบริษัทที่ทำได้ดีอยู่แล้ว
ฝ่ายที่บอก ESG สูงจะมีผลตอบแทนต่ำกว่าหรือไม่เกี่ยวให้เหตุผลประมาณว่า
- คนเห่อบริษัท ESG สูง ทำให้ราคามันสูงกว่าปกติ
- ESG สูงเป็นค่าใช้จ่าย อย่างเช่น Environment จะให้สะอาดมันทำได้ ปัจจุบันเทคโนโลยีมันมีหมดแล้วแต่มันเป็นการเพิ่มต้นทุน
- ผู้บริโภคปลายทางเวลาซื้อสินค้า มีใครถามเรื่อง ESG บ้าง
- วิธีการวัด ESG ปัจจุบันไม่มีมาตรฐาน
Source: Financial Times by Kate Allen on December 6, 2018
ผมเลยเกิดความอยากรู้ว่าการลงทุนในบริษัทที่มี ESG สูงผลตอบแทนดีกว่าลงทุนในบริษัทธรรมดาหรือเปล่า เราจะมาพยายามหาหลักฐานพิสูจน์เรื่องนี้กันครับ
ESG มันวัดจากอะไร ?
Environment สิ่งแวดล้อม หัวข้อนี้ก็จะให้คะแนนจากปัจจัยที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมต่างๆเช่น
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจก, นโยบายที่จะลดการปล่อยก๊าซ, ฯลฯ
- การกำจัดขยะอุตสาหกรรม, ขยะเคมี, ขยะมีพิษต่างๆ และการรีไซเคิล
- ผลกระทบต่อแหล่งน้ำ การใช้น้ำ
- ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด
- ใช้เทคโนโลยีที่ลดการใช้พลังงาน ออฟฟฺิศและตึกอาคารประหยัดพลังงาน
- การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลสิ่งแวดล้อม
- นโยบายจิปาถะอื่นๆ เช่นสนับสนุนให้พนักงานปั่นจักรยานมาทำงาน, ฯลฯ
Social สังคม หัวข้อนี้จะพิจารณาเรื่องวัฒนธรรมองค์กรที่เกี่ยวกับคน ทั้งกับคู่ค้า, พนักงาน และคนในสังคมเช่น
- การตอบแทนพนักงาน
- การพัฒนาอบรมพนักงาน
- ความปลอดภัยในที่ทำงาน, การป้องกันเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ
- ให้ความสำคัญกับความหลากหลายของคน โอกาสความก้าวหน้าที่ไม่จำกัดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ความเท่าเทียมในการปฏิบัติ
- ไม่ใช้แรงงานเด็ก, กำกับดูแลคู่ค้าหรือ Supplier ว่าปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน, ไม่ใช้แรงงานบังคับ
- ดูแลลูกค้าเมื่อเกิดปัญหา, การตอบสนองเวลาถูกฟ้องร้องโดยพนักงานหรือลูกค้า
- นโยบายโดยรวมด้านสังคม
Governance การกำกับดูแล อันนี้ก็จะดูว่าบริษัทมีการกำกับดูแลที่โปร่งใสแยกออกจากตัวผู้บริหารมั้ย รักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นมั้ยเช่น
- การให้ตอบแทนผู้บริหารมีเกณฑ์อย่างไร สอดคล้องกับผลประกอบการระยะยาวของบริษัทมั้ย
- มี Golden Parachute มั้ย
- ในกลุ่มคณะกรรมการบริษัทมีคนนอกมั้ยหรือครอบครัวมิตรสหายที่มีผลประโยชน์ร่วมทั้งนั้น
- ประธานคณะกรรมการบริษัทกับ CEO เป็นคนเดียวกันมั้ย
- มีนโยบายที่ทำให้ยากต่อการถอดถอนกรรมการบริษัทหรือไม่
- บริษัทมีหุ้นหลายระดับชั้นหรือเปล่า
- การสื่อสารกับผู้ถือหุ้น, การให้ข้อมูลเวลามีกรณีฟ้องร้อง, ฯลฯ
- การให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล
แล้วการลงทุนใน ESG ได้ผลตอบแทนดีกว่าหรือเปล่า ?
เท่าที่หาข้อมูลผมพบว่ามีทั้งคนสรุปว่าดีและมีคนสรุปว่าไม่เกี่ยว ดังนั้นเพื่อความเป็นกลางและไม่สับสน ผมจะใช้วิธีการเปรียบเทียบผลลัพธ์ระยะยาวของดัชนีที่เน้นหุ้น ESG สูงเทียบกับดัชนีที่ไม่สนใจ ESG ที่ดึงตัวอย่างบริษัทมาจากบริษัทกลุ่มเดียวกัน ถ้า ESG สูงมีผลจริง เราก็ควรจะเห็นผลตอบแทนระยะยาวของดัชนีที่เน้นหุ้น ESG สูงดีกว่าดัชนีที่ไม่สนใจ ESG อย่างมีนัยสำคัญ เรามาดูผลลัพธ์ที่ผมเจอกันเลยครับ
เริ่มจากกลุ่มดัชนี S&P ก่อนเลย
S&P Global 1200 vs. S&P Global 1200 ESG
ESG ชนะอยู่เฉลี่ย 0.12% ต่อปี
Source: https://eu.spindices.com
ต่อมา มาดูดัชนีของ FTSE กันบ้าง
FTSE Developed vs. FTSE4Good Developed
ESG ชนะอยู่เฉลี่ย 0.03% ต่อปี
Source: FTSE Russell as of 30 August 2019
FTSE Emerging vs. FTSE4Good Emerging
ESG ชนะอยู่เฉลี่ย 0.53% ต่อปี
Source: FTSE Russell as of 30 August 2019
มาดูของกลุ่มดัชนี MSCI กันบ้าง
MSCI World vs. MSCI World ESG Universal
ESG แพ้อยู่เฉลี่ย -0.18% ต่อปี
Source: https://www.msci.com
และสุดท้ายคือกลุ่มดัชนี STOXX กันบ้าง
STOXX Global 3000 vs. STOXX Global 3000 ESG-X
ESG ชนะอยู่เฉลี่ย 0.05% ต่อปี
เราจะเห็นว่าโดยรวมแล้วถ้าวัดกันที่ระยะเวลา 5 ปี ESG สูงเหมือนจะดีกว่าเล็กน้อยมากๆคือประมาณ 0.1% ต่อปีหรือน้อยกว่านั้น ซึ่งถือได้ว่าไม่เป็นสาระ ส่วนที่น่าเชื่อถือที่สุดเพราะนานกว่าคนอื่นก็มีแค่ของ MSCI ซึ่งมีข้อมูลเกือบ 10 ปี ได้ผลว่า ESG สูงห่วยกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่เป็นสาระอีกเช่นกันเพราะแย่กว่าแค่ -0.18% ต่อปีเท่านั้นเอง
ดังนั้นผมสรุปจากหลักฐานได้ว่าปัจจัยเรื่อง ESG ไม่มีผลอะไรกับผลตอบแทนการลงทุน ลงทุนเอาสบายใจได้เต็มที่เลย เพราะไม่ได้มีผลให้ผลตอบแทนแย่ลงแต่อย่างใด แต่แค่อย่าไปคาดหวังว่ามันจะดีกว่าเท่านั้นเองครับ
จะลงทุน ESG ได้ยังไง
สำหรับคนที่สนใจจะลงทุนแบบหุ้น ESG สูง ก็ทำได้ 2 ทางคือ
- ลงทุนผ่านกองทุน
อันนี้น่าจะง่ายสุด กองทุนที่มีนโยบายลงทุนแบบ ESG ผมก็ไม่ได้รู้จักอะไรเยอะเพราะส่วนตัวไม่ได้ลงทุนแนวนี้ เท่าที่ทราบก็จะมี
- กองทุนเปิดบรรษัทภิบาลหุ้นระยะยาว (CG-LTF) ของ UOB
- กองทุนรวมคนไทยใจดีี (BKIND) กับ กองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล (BSIRICG) ของหลักทรัพย์บัวหลวง
- กองทุนเปิดทิสโก้ ESG หุ้นไทยยั่งยืน ของ TISCO
- ลงทุนเอง
ผมเจอ Link อันนึงของบริษัทที่จัดอันดับบริษัทที่เป็นผู้นำด้าน ESG ในหมวดธุรกิจต่างๆ ในนั้นมีบริษัทไทยเราอยู่เหมือนกันนะ เป็นอะไรที่ผมแปลกใจทีเดียวเพราะเข้าใจว่านี่คือแข่งกันทั่วโลกเลยครับ
https://www.robecosam.com/csa/csa-resources/industry-leaders.html
ส่วนอีกที่นึงคือ Thailand Sustainability Investment จัดทำโดย SET
https://www.set.or.th/sustainable_dev/en/sr/sri/files/THSI_2018_eng.pdf
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg