ลงทุนหุ้นไทยกับหุ้นต่างประเทศ ต่างกันมั้ย ?

Differences Between Investing in Thai Stocks Versus Global Stocks

ลงทุนหุ้นไทยกับหุ้นต่างประเทศ ต่างกันมั้ย ?

มีนักเรียนผมที่เค้าขอให้พูดถึงความแตกต่างระหว่างลงทุนในหุ้นไทยกับหุ้นต่างประเทศ  ในวีดิโอนี้เราเปรียบเทียบลงทุนในหุ้นไทยกับหุ้นต่างประเทศในประเด็นต่างๆที่คนมักจะถามครับ

1. ผลตอบแทนอันไหนดีกว่า

เรื่องผลตอบแทนนี่อาจจะตอบยากนิดนึง  เพราะมันก็มีบางประเทศที่ผลตอบแทนแย่กว่าไทย  และบางประเทศผลตอบแทนดีกว่าไทย  ถ้าดูโดยภาพรวมเราก็เปรียบเทียบผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาระหว่าง MSCI ACWI (all country world index) กับ SET Total Return Index  MSCI ACWI ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.7% ต่อปี  ในขณะที่ SET Total Return Index ผลตอบแทน 0.94% เท่านั้นเอง  ซึ่งก็แปลว่าตลาดหุ้นต่างประเทศผลตอบแทนดีกว่า

แต่ทีนี้ในทางปฏิบัติเราก็คงไม่ได้ซื้อหุ้นทุกประเทศแบบ MSCI ACWI  และเวลาซื้อหุ้นไทยเราก็ไม่ได้ซื้อทั้ง SET เช่นเดียวกัน  ผมมองว่าเรื่องผลตอบแทนดีกว่าหรือเปล่านี่น่าจะแล้วแต่การตัดสินใจเลือกหุ้นของเรามากกว่า

โดยความเห็นส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าหุ้นต่างประเทศจะผลตอบแทนดีกว่าหรืออะไร  แค่รู้สึกว่าการดูหุ้นต่างประเทศไว้ด้วยทำให้เรามีทางเลือกเยอะขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมลงทุนด้วยวิธีการฉวยโอกาสหุ้นตกด้วยใช่มะ  การมีหุ้นต่างประเทศด้วยก็รู้สึกว่าทำให้มีโอกาสเยอะกว่านั่งจ้องหุ้นไทยเฉยๆนะ

2. แล้วเรื่องความเสี่ยงล่ะ

บางคนที่ถามผมเรื่องนี้จะมีภาพความรู้สึกว่าลงทุนในหุ้นต่างประเทศนี่มัน advanced กว่า  มันสำหรับโปรหรือคนที่ลงทุนชำนาญแล้วหรือคนมีประสบการณ์หลายปีหรืออะไรซักอย่าง  

ในความเป็นจริงคือมันไม่เกี่ยวครับ  หุ้นต่างประเทศไม่ได้แปลว่ามันเสี่ยงมากกว่าหรือเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นไทย  เสี่ยงหรือไม่เสี่ยงมันขึ้นอยู่กับว่าเรารู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทนั้นหรือเปล่ามากกว่า  ลองนึกถึงตัวอย่างง่ายๆ  คุณว่าระหว่าง Starbucks กับ PTTGC อันไหนเสี่ยงกว่ากัน  อันไหนคุณเห็นภาพเข้าใจสินค้ามากกว่ากัน  คนส่วนใหญ่ก็จะเห็นภาพและเข้าใจ Starbucks มากกว่าแหละ  เพราะมันใกล้ตัว  PTTGC นี่ผมไม่เคยเจอใครเข้าใจหรือรู้เรื่องอะไรจริงๆจังๆ  แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังรู้สึกว่าลงทุนในหุ้นไทยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องเลยเสี่ยงน้อยกว่าลงทุนในหุ้นต่างประเทศที่ตัวเองรู้จักดี  ผมก็ไม่เข้าใจ

ดังนั้นเราควรจะสนใจว่าเราเข้าใจหรืออย่างน้อยสามารถหาข้อมูลทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัทหรือธุรกิจมันได้หรือเปล่ามากกว่า  ถ้าทำได้จะหุ้นไทยหรือต่างประเทศก็โอเคทั้งคู่นี่  แต่ถ้าไม่ได้มันก็เสี่ยงหมดแหละไม่ว่าจะหุ้นไทยหรือต่างประเทศ

อีกเรื่องที่คนมักจะถามถึงเวลาพูดถึงความเสี่ยงคือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอันนี้มันก็มีผลแหละแต่มันก็มีทั้งไปในทางที่ดีหรือไปในทางที่ไม่ดีก็ได้  ไม่ได้จำเป็นว่าต้องแย่เสมอไป  และผมมองว่าสมมติลงทุนในหลายประเทศ  โดยรวมระยะยาวมันก็จะหักล้างกันไป  บางสกุลเงินที่เราถือก็จะอ่อนค่าลง  บางสกุลเงินแข็งค่าขึ้น  ขอให้เราลงทุนแล้วกำไรเยอะๆก็ใช้ได้  อย่าไปกังวลมาก

3. การหาข้อมูล

ส่วนตัวคิดว่าไม่ต่างกันนะ  คือสมมติว่าเป็นบริษัทไทยที่เราไม่คุ้นเคยกับบริษัทต่างประเทศที่เราไม่คุ้นเคย  ยังไงก็ต้องเริ่มหาข้อมูลยังไงซักอย่าง  รายงานประจำปีที่อธิบายว่าบริษัททำอะไรก็มีเหมือนกัน  หลังจากนั้นไปอ่านเกี่ยวกับคู่แข่ง, จุดเด่นหรือสถานการณ์ของอุตสาหกรรมก็ต้องทำเหมือนกันทั้งหุ้นไทยและต่างประเทศ  เวป SET ที่ใช้สำหรับหุ้นไทย  หุ้นต่างประเทศก็มีเวปอย่าง Reuters กับ Morningstar ที่มีสรุปงบการเงินเหมือนๆกัน

อย่างเดียวที่อาจจะเป็นประเด็นคือบริษัทในต่างประเทศที่ไม่มีธุรกิจในไทยเราสัมผัสจริงยากกว่า  อย่างสมมติ CPALL ร้านสะดวกซื้อ 7-11 นี่เราสามารถเข้าไปเดินๆสัมผัสได้จริง  แต่อย่างร้านสะดวกซื้อในรัสเซีย Pyaterochka งี้เราอาจจะไม่ได้สัมผัสจริงถึงแม้จะอ่านข้อมูลได้ก็ตาม  มันก็ทำให้เสียเปรียบอยู่นิดนึงตรงเรื่องนี้นะ

4. วิธีเลือกหรือตัดสินใจ

มันก็เหมือนกันกับหุ้นไทย  ถ้าคุณใช้ปัจจัยพื้นฐานก็ใช้ปัจจัยพื้นฐานแบบเดียวกันกับหุ้นต่างประเทศได้  ถ้าใครดู P/E ก็ดู P/E  ใครดูกราฟก็ดูกราฟ  ไม่เห็นว่ามีความแตกต่างกันตรงไหน

5. ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายโดยรวมแพงกว่าหุ้นไทย  เข้าใจว่าเป็นเพราะเราลงทุนผ่านตัวกลางสองต่อ  คืออย่างผมลงทุนผ่าน SCBS ซึ่งเค้าก็ไปติดต่อกับโบรกเกอร์ในต่างประเทศอีกที  ถ้าไปติดต่อเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ในต่างประเทศได้โดยตรงอาจจะถูกกว่าอันนี้ไม่เคยลอง

ภาษีปันผล  โดยรวมก็แพงกว่าเช่น US นี่ 15%, Germany 26.375%  แพงสุดที่เคยเจอคือ Switzerland 35%  แต่ที่ถูกกว่าก็มีเช่น UK นี่ 0%, ฮ่องกงที่ไม่ใช่ H-shares ก็ 0%

สรุป

สรุปคือมันก็ไม่ต่างอะไรกันขนาดนั้นหรอกครับ  เราก็ยืนยันว่าการเปิดโอกาสศึกษาหุ้นต่างประเทศเป็นเรื่องดี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ภาษาอังกฤษได้ผมว่าศึกษาไว้ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่  จะซื้อหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึงครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี