สถานการณ์เรื่อง Supply chain ปัจจุบันเป็นยังไงบ้างแล้ว ?
ส่วนตัวผมก็สงสัยอยู่ซักพักละว่าสถานการณ์ปัจจุบันของ supply chain ทั่วโลกตอนนี้เป็นยังไงบ้างกันแน่ เพราะเรื่องนี้มันมีผลกับเงินเฟ้อว่าจะมีโอกาสดีขึ้นแล้วหรือยัง ก็พอดีว่ามาเจอบทความที่พูดถึงเรื่องนี้ของ Morningstar พอดี ผมว่าเนื้อหาดีมากก็เลยเอามาเล่าให้ฟังครับ และเผื่อใครสนใจอ่านด้วยตัวเองผมทิ้งลิ้งค์ไว้ตรงนี้ https://www.morningstar.com/articles/1096095/where-does-the-supply-chain-crisis-stand-now
จากมุมมองของ Morningstar คือเริ่มมีสัญญาณว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ถึงแม้ว่าในบางอุตสาหกรรมยังมีปัญหาอยู่
ประเด็นเรื่อง supply chain ในเวลานี้เป็นจุดสนใจหลักของนักลงทุน เพราะมันเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะทำให้เงินเฟ้อที่สูงผิดปกติในช่วงนี้ลดลงได้ ความหวังในตอนต้นปีคือเราคาดหวังว่าปัญหาการติดขัดของ supply chain จะดีขึ้นช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ แต่ก็อย่างที่รู้คือมันมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างสงครามยูเครนกับการปิดเมืองของจีนที่โผล่เข้ามา ทำให้ตอนนี้เกือบทุกบริษัทก็จะมีปัญหาเรื่อง supply chain บ้างไม่มากก็น้อย กลุ่มธุรกิจที่โดนผลกระทบเยอะสุดก็จะเป็นพวก semiconductors, รถยนต์, อุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ, ค้าปลีก และร้านอาหาร
กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล
พวกบริษัทที่ให้บริการเดินเรือขนส่งช่วงที่ผ่านมานี้ก็จะกำไรดี เพราะความต้องการที่สูงขึ้นมาทำให้อัตราค่าขนส่งสูงขึ้น และในเวลานี้หลายบริษัทพยายามทำสัญญาระยะยาวมากขึ้นเพื่อให้ชัวร์ว่าสามารถขนส่งสินค้าได้ ไม่เหมือนก่อนช่วงปีโควิดที่เป็นลักษณะจะใช้เมื่อไหร่ก็จ้าง ซึ่งแปลว่าต้นทุนการขนส่งที่แพงขึ้นนี้ก็อาจจะอยู่ไปซักพัก จะไม่ได้สามารถปรับตามสถานการณ์ตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเรื่องดีเลย์ ตอนนี้ช่วงสามเดือนแรกของปีเฉลี่ยอยู่ที่ 7 วัน ซึ่งเกือบเป็นสองเท่าของปี 2019 และสัดส่วนของสินค้าที่ถูกส่งได้ตรงเวลาคือประมาณ 36% ไม่ถึงครึ่งของช่วงเวลาปกติ
กลุ่ม Semiconductors
Semiconductors เป็นหนึ่งในต้นเหตุสำคัญของความคลาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา เพราะมันต้องใช้ในธุรกิจที่หลากหลายเหลือเกิน การปิดจากโควิดทำให้การผลิตตัวชิปขาดช่วง แล้วก็ไปทำให้อุตสาหกรรมอื่นได้รับผลกระทบ
บริษัทอย่าง Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSM) เน้นไปผลิตชิปที่มูลค่าสูงเพราะกำไรดีกว่า ชิปพวกนี้ใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, ฯลฯ บริษัทอย่าง Apple, Nvidia, AMD พวกนี้คือต้องใช้ชิปที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่คุณภาพสูง
ส่วนชิปที่ธรรมดาลงมาใช้เทคโนโลยีเก่ากว่า ปกติใช้ในรถยนต์, อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค, เครื่องจักรในโรงงาน, ฯลฯ ซึ่งไม่ได้กำไรดีมากสำหรับผู้ผลิต ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความสนใจ แต่เราเชื่อว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเพราะตลาด personal computer เริ่มชะลอตัวลง น่าจะทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตชิปประเภทอื่นมากขึ้น
ในระยะยาวแล้วสถานการณ์ดูดีขึ้น บริษัทในอุตสาหกรรม Semiconductors เริ่มมีมาตรการป้องกันการขาดแคลนมากขึ้น อย่างเช่นปัจจุบันการผลิตชิปส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย หลายบริษัทตอนนี้กำลังลงทุนเพื่อให้ผลิตในทวีปอื่นด้วย Taiwan Semiconductor, Samsung, Intel พวกนี้เพิ่มกำลังการผลิตใน US
รัฐบาลสหรัฐก็กำลังพิจารณาออกกฎหมายที่ช่วยสนับสนุนการผลิต Semiconductor ในอเมริกา ปัจจุบันทั้งสภาสูงและสภาล่างผ่านกฎหมายเวอร์ชั่นของตัวเองแล้ว แต่เวอร์ชั่นที่ตกลงร่วมกันยังอยู่ในกระบวนการอยู่
และจากเดิมที่ดำเนินธุรกิจแบบ lean มี inventory น้อยๆ ตอนนี้ก็บริษัทชิปเริ่มมี inventory บ้างเพื่อเผื่อเหตุการณ์ supply chain ขาด
ทั้งนี้ในระยะสั้น สงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจจะทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับการผลิตชิปเช่น neon, palladium บริษัทที่ผลิตเครื่องจักรกับเทคโนโลยีสำหรับการผลิตชิปเช่น ASML Holdings ก็อาจจะส่งมอบล่าช้าเพราะความขาดแคลนชิป ทำให้การขยายการผลิตอาจจะล่าช้าออกไป
กลุ่มรถยนต์
กลุ่มรถยนต์ก่อนหน้านี้ก็ขาดแคลนชิปเพราะโควิดระบาด ทำให้มีการขาดแคลนรถใหม่และทำให้รถมือสองราคาสูงขึ้น
ในยุโรปผู้ผลิตรถยนต์ได้รับผลกระทบจากสงคราม ผู้ผลิตระบบไฟในรถยนต์ซึ่งผลิตให้กับ Volkswagen กับ BMW อีกทีต้องปิดโรงงานในเยอรมณีไปสองโรง
ในอเมริกา Ford กับ General Motors ก็เจอปัญหาชิ้นส่วนขาดในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตามรายงานของ Reuters ช่วงปลายมีนาคมการขาดแคลนชิปทำให้ต้องหยุดการผลิตของโรงงานใน Michigan ซึ่งผลิตรถรุ่น Mustang General Motors ก็มีต้องหยุดการผลิตไปชั่วคราวเพราะ “ขาดชิ้นส่วน” เช่นกัน
ภาพรวมคือ inventory ต่ำลงมากในช่วงปีที่แล้ว ตอนนี้ดูทรงตัวละ คาดว่ากำลังการผลิตรถใหม่เริ่มสูงขึ้น
ส่วนราคารถมือสองในช่วงหลังนี้ก็ต่ำลง สอดคล้องกับภาพที่เราเข้าใจว่าสามารถผลิตรถยนต์ได้เยอะขึ้น
กลุ่มร้านอาหาร
เดือดร้อนจากทั้งราคาต้นทุนอาหารที่สูงขึ้นและค่าจ้างพนักงานเลยทีเดียว
อันนี้คือให้ดูว่าราคาต้นทุนอาหารแพงขึ้นขนาดไหนในช่วงที่ผ่านมา สินค้าบางประเภทแพงขึ้นเกินเท่าตัวในช่วงสามปีมานี้
และอันนี้แสดงตัวการเติบโตของรายได้กับอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของกลุ่มร้านอาหารใน US จะเห็นว่าทั้งหมดรายได้สูงขึ้นแหละ แต่ส่วนใหญ่เจอปัญหาว่าต้นทุนกับค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเร็วกว่าซะจนอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานหดตัวลง
สรุปแล้วคือตอนนี้ภาพรวมยังมีปัญหาอยู่นะ ยังไม่คลี่คลายเท่าไหร่ และดังนั้นโดยส่วนตัวผมก็เชื่อว่าเงินเฟ้อจะยังสูงไปอีกพักใหญ่เลย
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี