ความพยายามในการเดาจุดต่ำสุด

Predicting the lowest point in a stock drop

ความพยายามในการเดาจุดต่ำสุด

หัวข้อนี้ไม่แน่ใจว่าเคยพูดไปแล้วหรือยัง  แต่เร็วๆนี้ที่มีตลาดตกต่อกันหลายวันผมเริ่มคนถามคำถามประมาณว่า “ตลาดจะตกต่อมั้ย”, “ตอนนี้ตกสุดหรือยัง” บ่อยขึ้นเยอะ  แม้กระทั่งนักเรียนผมก็เป็น  ดังนั้นผมเลยรู้สึกว่าควรจะพูดเรื่องนี้อีกทีเพราะมันสำคัญครับ

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าตลาดหุ้นในระยะสั้นนี่มันขึ้นกับอารมณ์เยอะมากและมันพลิกไปมาได้เร็วมาก  ถ้าเราสังเกตลองย้อนไปดูเราก็จะเห็นว่าบางทีตลาดก็ตก -1% กว่าและในวันต่อมาก็อาจจะกลับตัวทันทีเป็นบวก +1% กว่าก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้  ไม่มีใครเดาได้จริงๆหรอกว่าพรุ่งนี้ตลาดจะเป็นยังไง

ทีนี้แน่นอนว่าเราทุกคนก็จะมีความเห็นต่อตลาดหุ้นของตัวเองแหละ  บางคนก็ว่าตลาดน่าจะตกต่อนะ  บางคนก็บอกน่าจะขึ้นนะ  ซึ่งตรงนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร  เราแค่ต้องรู้ว่ามันเป็นแค่ความเห็นเรานะและมันไม่ได้จำเป็นต้องถูก  แต่ปัญหามันจะเริ่มเกิดถ้าเราเผลอไปคิดว่าความเห็นของเรามันจะแม่น  แล้วเริ่มใช้กลยุทธ์ในการลงทุนที่ต้องพึ่งพาความแม่นยำในการเดานั่น  อย่างเช่นเราจะซื้อตอนหุ้นตกต่ำที่สุดอะไรแบบนั้นเป็นต้น  พอกลยุทธ์ในการลงทุนมันไปอิงกับสิ่งที่อาศัยโชคปุ๊บก็แปลว่าผลลัพธ์ในการลงทุนเราก็กลายเป็นอาศัยโชคไปด้วย  และตรงนี้มันก็จะเริ่มอนาถละ

ถึงเวลาเหตุการณ์จริง  สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นคือประมาณนี้  สมมติหุ้นตกมา 10% ละจาก 100 เหลือ 90  คำถามคือแล้วควรจะซื้อหรือยัง  ถ้ากลยุทธ์เรามีเกณฑ์ตายตัวเช่นดูว่าราคาต่ำกว่ามูลค่าพอสมควรแล้วถึงซื้อมันก็ไม่ต้องเดาถูกมะ  ก็แค่ดูว่าราคา 90 นี่ต่ำกว่ามูลค่าพอสมควรยัง  ถ้าสมมติเราคิดว่ามูลค่าที่แท้จริงบริษัทนี้อยู่ 100 บาทนะแล้วเรากะซื้อต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสมซัก 15% ซึ่งคือที่ 85 บาทหรือต่ำกว่่า  เราก็ตัดสินใจได้ทันทีว่ายังไม่ซื้อ  แต่สมมติกลยุทธ์เราไม่มีเกณฑ์ตายตัวต้องอาศัยการเดาซื้อที่จุดต่ำสุด  งั้น 90 บาทนี่ต่ำสุดยังอ่ะ  ก็ไม่รู้และก็จะคอยสงสัยอยู่ว่ามันจะตกไปอีกหรือเปล่า  แล้วสมมติวันต่อมามันตกไปอีกเหลือ 87 บาทล่ะ  อันนี้คือควรซื้อหรือยัง  ก็ไม่รู้อีกมันก็อาจจะตกไปอีกพรุ่งนี้ก็ได้ถูกมะ  แล้วถ้าพรุ่งนี้เหลือ 85 บาทล่ะ  ก็จะมีคำถามเดิมอีกอยู่ดี  ไม่จบไม่สิ้น

สุดท้ายสิ่งที่ผมแนะนำโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักเรียนเราก็คือ  เราจะมีความเห็นว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือจะลงก็ตามสบายไม่มีปัญหา  แต่การตัดสินใจในการซื้อยังไงก็ต้องมีระบบชัดเจน  จะใช้วิธีประมาณการผลตอบแทนแบบที่เรียนไปก็ได้  หรือจะใช้วิธีประเมินมูลค่าหุ้นแบบ DCF อะไรก็ได้  หรือจะดู P/E, Dividend yield ก็ได้แล้วแต่  ที่สำคัญขอให้มันมีเกณฑ์ในการตัดสินใจให้ชัดเจนว่าจะซื้อเมื่อไหร่  ไม่เอาแบบใช้ความรู้สึกโอเคมะ  ใช้ความรู้สึกมันมั่วครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี