ค่า p/e ใช้อย่างไร ?
เรื่องนี้คุ้นเหมือนน่าจะเคยพูดถึงไปแล้ว แต่อาจจะพูดปนไปกับหัวข้ออื่นแล้วไม่เคยพูดเดี่ยวๆก็เลยยังมีคนถามอยู่ วันนี้เราพูดเรื่องนี้กันครับ เพื่อความชัวร์เผื่อคนมือใหม่มาก เราเริ่มจากพูดถึงว่า P/E คืออะไรก่อน แล้วก็พูดถึงว่าเอาไปใช้ยังไง มีข้อดียังไง มีข้อจำกัดยังไง เรียงประมาณนี้
P/E คือย่อจาก price/earning ราคาหุ้นตั้งแล้วหารด้วยกำไรต่อหุ้น สิ่งที่ได้มาก็คือบอกว่าราคาหุ้นเป็นกี่เท่าของกำไรต่อหุ้น อัตราส่วนนี้หลักๆแล้วเอาไว้บอกระดับความนิยมของคนที่มีต่อหุ้นนั้น นึกภาพนะ ถ้าหุ้นอะไรซักอัน P/E 10 เท่าก็แปลว่าคนยินดีซื้อหุ้นๆนั้นที่ราคา 10 เท่าของกำไร ถ้าอีกหุ้นนึง P/E 30 ก็คือแปลว่าคนยินดีซื้อหุ้นๆนั้นที่ 30 เท่าของกำไร
ทีนี้มาพูดถึงวิธีการใช้ โดยตัว P/E เดี่ยวๆมันจะไม่ค่อยมีประโยชน์ อย่างสมมติอยู่ๆบอก P/E 15 นี่คือดีหรือไม่ดี มันก็บอกไม่ได้ละ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆจำนวนมากเช่นความเสี่ยงของหุ้นนั้น, อัตราการเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต, ฯลฯ
แต่มันจะเริ่มมีประโยชน์เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับ P/E ของตัวเปรียบเทียบที่คล้ายกันมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะมีอยู่ 2 แบบคือ
- เทียบกับบริษัทอื่นที่ทำธุรกิจคล้ายๆกัน ยิ่งคล้ายกันเท่าไหร่ยิ่งดี
- เทียบกับตัวมันเองในอดีต
คอนเซปต์คร่าวๆคือของที่เหมือนกันมันก็ควรจะขายราคาเท่าๆกัน ดังนั้นถ้า P/E ของหุ้นที่เราดูอยู่มันต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทที่คล้ายๆกัน มันก็แปลว่าคนนิยมหุ้นที่เราดูอยู่น้อยกว่า ทั้งที่มันควรจะเหมือนกันเพราะธุรกิจเหมือนกัน ก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าหุ้นที่เราดูอยู่นี่ราคาถูกเกินไปสมควรไปศึกษาเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่แปลว่าควรซื้อทันทีนะ เพราะอย่าลืมว่าเอาเข้าจริงบริษัทมันก็ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ ที่บริษัทที่เราดูมัน P/E ต่ำกว่าก็อาจเป็นเพราะมันสินค้าขายสู้คู่แข่งไม่ได้หรือหนี้เยอะเลยเสี่ยงกว่าหรืออื่นๆ
หรืออีกอันที่ผมนิยมมากกว่าคือเทียบกับ P/E เฉลี่ยในอดีตของตัวมันเอง การเทียบแบบนี้มีประโยชน์กับบริษัทที่ค่อนข้างคงที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะ ถ้าสมมติเราเห็นว่าช่วงนี้ P/E ต่ำกว่า P/E เฉลี่ยในอดีต แล้วเราก็ไม่เห็นว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรรุนแรง แนวโน้มธุรกิจก็ยังเหมือนเดิมแต่ระดับความนิยมต่ำลง แบบนี้ก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าตอนนี้หุ้นถูกและเริ่มน่าสนใจละ แต่ถ้าสมมติมันเป็นบริษัทที่กำลังมีการเปลีย่นแปลงอย่างรวดเร็วอยู่และอนาคตไม่แน่นอน การเปรียบเทียบ P/E ตอนนี้กับเฉลี่ยในอดีตก็จะไม่ค่อยมีสาระอะไร
ข้อดีของ P/E คือมันเป็นอะไรที่คำนวณง่ายเข้าใจง่ายใช้ง่าย ตัวเลขที่เอามาคำนวณซึ่งคือราคากับกำไรก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้ต้องอาศัยการเดาหรือประมาณการอะไรใครคำนวณก็เหมือนกัน
ข้อจำกัดหลักๆเลยก็ตรงที่มันมีประโยชน์ในเชิงเปรียบเทียบ พอมันต้องใช้เปรียบเทียบกับอันอื่นก็เลยทำให้การตีความมันอาจจะเพี้ยนไปได้ เช่นสมมติพอดีช่วงนี้เป็นช่วงตลาดหุ้นแพงเว่อร์ด้วยกันทั้งตลาด แต่พอดีว่า P/E บริษัทที่เราดูอยู่ถูกกว่าเทียบกับธุรกิจเดียวกัน หรือถูกกว่าเทียบกับทั้งตลาดเลยก็ได้ เราอาจจะไปสรุปว่าตอนนี้หุ้นมันราคาถูกควรซื้อ ทั้งที่จริงๆมันก็แพงด้วยกันหมดก็ได้
จบละ การใช้ P/E มันก็ประมาณนี้แหละ เมื่อเข้าใจแล้วก็ใช้มันอย่างระมัดระวังและคำนึงถึงข้อจำกัดของมันด้วยครับ
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี