ปัจจัยเชิงคุณภาพของบริษัท อนาคตจะดีขึ้นไปอีก หรือจะหายไป ต้องดูยังไง ?
ก็เป็นคำถามที่ดีแหละ แต่ในความเป็นจริงคือต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่มีกฎอะไรตายตัวหรือค่าตัวเลขอะไรซักอย่างที่แค่ดูตัวเลขนี้แล้วบอกได้ เพราะสถานการณ์ของบริษัทแต่ละบริษัทหรือธุรกิจแต่ละประเภทมันมีความหลากหลายและต่างกันเยอะเกินกว่าที่จะมีเกณฑ์ตายตัวได้ วีดิโอนี้เราพยายามอธิบายเรียบเรียงความคิดละกันว่าถ้าเป็นเราจะดูอะไรยังไงบ้าง
ขั้นตอนแรกสุดเลยคือ เราต้องเห็นภาพก่อนว่าบริษัทมันมีความได้เปรียบเพราะว่าอะไรตั้งแต่แรก อันนี้สำคัญมากจริงเพราะถ้าไม่รู้ประเด็นนี้คือจบละ เราไม่มีทางบอกได้ว่าบริษัทจะดีขึ้นหรือแย่ลงแน่นอน โดยทั่วไปสิ่งที่ควรทำคือถามก่อนเลยว่า “มีเหตุผลอะไรที่คนต้องซื้อของจากบริษัทนี้ ?” มันมีสินค้าบริการที่แตกต่างออกไปเหรอ ต่างยังไง ความต่างนั่นมันสำคัญเพราะอะไร ทำไมไม่มีใครทำเลียนแบบล่ะ หรือที่ต้องซื้อเพราะมันทำอยู่เจ้าเดียวเหรอ ทำไมมันทำอยู่เจ้าเดียวได้ล่ะ ทำไมไม่มีคนอื่นมาทำแข่ง เรื่องตรงนี้เป็นอะไรที่เราต้องพยายามทำความเข้าใจแหละ ไม่มีทางลัด
เมื่อเราเข้าใจที่มาของความได้เปรียบแล้ว สิ่งที่เราพยายามทำคือมองดูว่าความได้เปรียบตรงนั้นมันเข้มแข็งขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิม หลักๆก็คือสังเกตไอตรงเหตุที่มันทำให้บริษัทได้เปรียบนั่นแหละ ถ้าเป็นเรื่องสินค้าบริการที่แตกต่างก็ต้องคอยดูว่ามันยังแตกต่างอยู่ ถ้าเป็นเรื่องขายอยู่เจ้าเดียวก็ต้องคอยดูว่ามันยังจะขายอยู่เจ้าเดียวอยู่ต่อไปมั้ย
ส่วนใหญ่ระหว่างเข้มแข็งมากขึ้น, เท่าเดิมกับเข้มแข็งน้อยลง ที่มันจะมีปัญหากับเราคือกรณีที่มันเข้มแข็งน้อยลงมากกว่า อาจจะเริ่มจากถามคำถามว่า “ถ้าไม่ซื้อของจากบริษัทนี้ มีทางเลือกอื่นอะไรบ้าง ?” ทางเลือกอื่นเหล่านั้นมันดูน่าสนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมั้ย หรือทางเลือกอื่นที่ว่านี่ก็ยังดูสู้ไม่ได้ทิ้งห่างเหมือนเดิม
นอกเหนือจากนี้ก็มีตัวเลขที่ควรสังเกตอื่นๆที่ช่วยบ่งชี้ได้เช่น ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาด (ถ้ามีก็ช่วยได้ แต่บางบริษัทก็หาตัวเลขนี่ไม่ได้), Profit margin โดยเฉพาะ Gross profit margin กับ Operating profit margin แย่สุดคือแกว่งรุนแรง และน่าสงสัยถ้าเห็นว่ามันบีบลงเรื่อยๆ, Customer retention และอัตราส่วนอื่นๆที่บ่งชี้ว่าลูกค้าชอบบริษัท ตัวเลขพวกนี้ช่วยได้ แต่จุดบอดของการพึ่งพาตัวเลขพวกนี้อย่างเดียวคือกว่าจะเห็นสัญญาณปัญหาก็คือปัญหาเริ่มเกิดไปซะละ
มาถึงตรงนี้คุณน่าจะสังเกตได้แล้วแหละว่าการจะสังเกตเรื่องการเปลี่ยนแปลงในอนาคต มันจะได้เปรียบมากถ้าเราคุ้นเคยกับสินค้าหรือบริการนั้นๆน่ะแหละ อ่านบทความบนเน็ตมันก็ช่วยอ่ะนะ แต่ไม่มีทางสู้คนใช้จริงที่ใกล้ชิดสินค้าบริการนั้นๆแน่นอน ดังนั้นก็เลยเป็นเหตุผลที่เค้าย้ำกันนักหนาว่าลงทุนในบริษัทที่เราชอบและเห็นภาพดีกว่าครับ
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี