อย่าไปให้ความหมายกับราคาหุ้นขึ้นๆลงๆ
ผมสังเกตเห็นพวกเราหลายคนให้ความหมายกับการขึ้นลงของราคาหุ้นมากเกินไป คือประมาณว่าถ้าเห็นราคาหุ้นขึ้นก็เข้าใจว่าบริษัทต้องทำได้ดีและดังนั้นก็สบายใจมองยังไงก็เห็นแต่เรื่องดี กลับกันถ้าเห็นราคาหุ้นตกก็รู้สึกว่าบริษัทต้องมีปัญหาอะไรแน่แล้วก็เริ่มเครียดมองยังไงก็เห็นแต่เรื่องร้าย ซึ่งอาการแบบนี้มันทำให้ใจเราไม่นิ่งตัดสินใจพลาดได้น่ะ
อย่างแรกที่อยากให้มีการแยกแยะก่อนคือราคาหุ้นขึ้นลงมันแค่แปลว่าคนโดยรวมมีมุมมองต่อบริษัทดีขึ้นหรือแย่ลงเฉยๆ เค้าอาจจะมีมุมมองว่าบริษัทจะผลประกอบการดีขึ้นนะ หรือเค้าอาจจะมองว่าบริษัทน่าจะทำได้แย่ลงนะ มันสะท้อนความเห็นของคนโดยรวมในตลาดเฉยๆ ซึ่งมันคนละอย่างกับบริษัททำได้ดีหรือไม่ดี ประเด็นสำคัญคือแค่เพราะคนโดยรวมเชื่อมันก็ไม่ได้แปลว่ามันจะถูกต้อง
อย่างที่สองคือถ้าเราคาดหวังว่าจะทำผลตอบแทนได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยตลาด เราก็ต้องมีมุมมองหรือการกระทำบางอย่างต่างออกไปจากคนโดยรวมอยู่แล้ว ไม่งั้นผลตอบแทนเราก็ต้องเท่าๆคนทั่วไปสิ ดังนั้นเราควรจะชินและรู้สึกเฉยๆกับการที่ราคาหุ้นไม่เห็นด้วยกับเราอย่างน้อยในระยะสั้นอยู่แล้ว ถ้าเราซื้อสิ่งที่ทุกคนก็คิดว่าดีทำเหมือนๆกัน งั้นมันจะผลตอบแทนดีกว่าค่าเฉลี่ยได้ไงน่ะ
แต่ทั้งนี้เราก็ต้องอย่าประมาท เพราะเราจะมีมุมมองและทำแตกต่างจากคนอื่นทั่วไปเฉยๆไม่ได้ ความแตกต่างนั้นมันต้องถูกด้วย ดังนั้นเวลาราคาหุ้นมันขึ้นหรือลงไม่ว่ามันจะไปในทิศทางที่เราคาดหรือเปล่า เราต้องนึกในใจว่ามันก็แค่ความเห็นโดยรวมคนชอบบริษัทมากขึ้นหรือน้อยลงก็แค่นั้น ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่านั้น สิ่งที่เราโฟกัสคือตัวบริษัทเท่านั้น ถ้าราคาหุ้นตกแต่บริษัทมันทำได้ดีขึ้นก็คือดีขึ้น ถ้าราคาหุ้นขึ้นแต่บริษัททำได้แแย่ลงก็คือแย่ลง ถ้าราคาหุ้นตกแต่บริษัทไม่ได้มีอะไรใหม่เกิดขึ้นก็คือไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี