เล่าประสบการณ์ลงทุนพลาด ขาดทุนเป็นแสน เป็นล้าน (ภาค 2)
บทความนี้ผมเล่าเคสที่เคยตัดสินใจลงทุนพลาดแบบเยอะๆและสิ่งที่ผมเรียนรู้จากเหตุการณ์เหล่านั้นให้ฟังครับ
4. Invesco
บริษัทนี้ทำธุรกิจบริหารจัดการกองทุนครับ มีทั้งกองทุนที่เป็น Active และกองทุนที่เป็น Passive Invesco ตอนที่ผมซื้อก็เป็นผู้ออก ETF ที่ใหญ่อันดับที่ 4 ในอเมริกาด้วย ซื้อช่วงปลายปี 2018 ที่ราคา 22 USD ด้วยเงินจำนวน 2,000,000 บาท
ตอนนั้นที่ซื้อจำได้ว่าเป็นเหตุการณ์หุ้นตกปลายปี 2018 เพราะเรื่อง trade war ธุรกิจประเภทเดียวกับ Invesco ก็ตกหมดนะ บริษัทผู้ออก ETF ที่ใหญ่สุดในอเมริกาเรียงจากใหญ่สุดก็จะมี Blackrock, Vanguard, State Street แล้วก็ Invesco ซึ่งนอกจาก Vanguard แล้วทุกอันมีหุ้นหมดและก็ตกกันหมด สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกซื้อ Invesco เป็นเพราะราคามันถูกสุด คือจริงๆก็รู้แหละว่า Invesco สู้คู่แข่งไม่ได้ ใน ETF ด้วยกันก็แพ้ Blackrock กับ State Street ห่างกันเยอะ อยู่ที่ 4 ก็จริงแต่ทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารนี่ขนาดคนละเรื่อง ในฝั่งกองทุน Active ก็ผลตอบแทนสู้พวก T. Rowe Price ไม่ได้เลย เป็นบริษัทระดับรองอย่างชัดเจน แต่ซื้อเพราะคิดว่า trade war มันปัญหาชั่วคราวบวกกับดูราคามันถูกมาก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือหุ้นโดยรวมมันก็ฟื้นจากเรื่อง trade war ตามคาด แต่ทีนี้ Invesco ดันแพ้ Blackrock กับพวกตัวใหญ่ๆด้วยความที่เค้ามีทรัพย์สินภายใต้การบริหารเยอะกว่ามากก็สามารถที่จะลดราคาค่าธรรมเนียมบีบให้แคบลงได้ ก็ยิ่งกินส่วนแบ่งการตลาด ETF ที่เป็น Passive มากขึ้นไปอีก ในขณะที่ Invesco ต้องพึ่งพาการซื้อกิจการเพื่อที่จะโต ส่วนฝั่ง Active ก็แพ้พวก T. Rowe Price หรือไม่ก็เสียลูกค้าเพราะกระแสของการลงทุนแบบ Passive กำลังได้รับความนิยม สุดท้ายตอนปลายปี 2019 ผมก็ยอมรับความผิดพลาดและขายหุ้นไปแถว 17.5 USD ขาดทุนไปประมาณ -20% ได้
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในครั้งที่สอนให้รู้ว่าควรเลือกหุ้นที่เข้มแข็งดีกว่าหุ้นงั้นๆ ถึงแม้ว่าหุ้นงั้นๆราคาจะตกเยอะกว่าก็ตาม แต่ในระยะยาวแล้วหุ้นงั้นๆเสี่ยงกว่าและต่อให้ฟื้นขึ้นมาโอกาสเติบโตในอนาคตก็น้อยกว่า
5. Dignity
อันนี้ก็เป็นอีกเคสที่ขาดทุนไปเยอะ Dignity นี่ทำธุรกิจจัดงานศพและทำที่เผาศพในอังกฤษครับ ผมมีซื้อสามครั้ง รวมเป็นเงิน 2,500,000 บาท ที่ราคาเฉลี่ย 10.4 GBP
เรื่องของเรื่องคือบริษัทนี้สิ่งที่ผมชอบคือรู้สึกว่าลักษณะธุรกิจมันคงที่ดีผลประกอบการสม่ำเสมอ โมเดลของบริษัทนี้เค้าเน้นขายงานศพแบบ full service คือเต็มรูปแบบตามประเพณีดั้งเดิมซึ่งค่อนข้างแพง และก็ใช้การซื้อกิจการบริษัทจัดงานศพท้องถิ่นตามเมืองต่างๆซึ่งหลายครั้งก็เป็นเจ้าเดียวในเมืองพวกนั้น ส่วนแบ่งการตลาดของเค้าอยู่ประมาณ 11-12% นะ แถมอนาคตเราก็รู้ว่าเป็น aging society ใช่มะ เลยซื้อไปครั้งแรกก่อน 1,000,000 บาทที่ 16 GBP ตอนปลายปี 2017
หลังจากนั้นปรากฎว่าปีต่อมาบริษัทเปลี่ยนกลยุทธ์การทำธุรกิจ เค้าบอกว่าเดี๋ยวนี้คนที่ขายจัดงานศพขายผ่านออนไลน์และผู้บริโภคเองก็หาผ่านออนไลน์มากขึ้น ทำให้สภาพการแข่งขันที่ผูกขาดในบางพื้นที่แต่เดิมผูกขาดได้น้อยลงเรื่อยๆ ผู้บริหารเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงก็เลยตัดสินใจลดราคามาแข่ง ทำตลาดจัดงานศพแบบราคาถูกเยอะขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงจากที่มีแบรนด์ย่อยกระจายก็เปลี่ยนมาเป็นทำสองยี่ห้อคือ Dignity กับ Simplicity ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำให้กระทบกับกำไรของบริษัทลดไปเกือบครึ่งในปี 2018 ราคาหุ้นก็ตก ผมก็มีการซื้อเพิ่มไปอีกที่ 9 GBP อีก 1,000,000 บาทและ 7.5 GBP อีก 500,000 บาท ต่อมาในปี 2019 บริษัทก็ยอดขายสูงขึ้นนะแต่ด้วยความที่อัตราส่วนกำไรสุทธิมันน้อยลงไปเยอะมากกำไรก็เหลือแค่ 60% เทียบกับเมื่อปี 2017 ผมก็มาได้สติตอนปลายปี 2019 ว่าสภาพการแข่งขันมันไม่เหมือนเดิมแล้วและไม่มีอะไรบอกได้ว่า Dignity จะชนะคู่แข่งในอนาคตหรือว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ทำจะได้ผล มันไม่ใช่ปัญหาชั่วคราวซะละ เลยตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดไปที่ราคา 5.6 GBP ขาดทุนไป -46.15% หรือคิดเป็นเงินคือ 1.15 ล้านบาทได้
เหตุการณ์นี้สิ่งที่พลาดจริงๆเลยคือที่มาซื้อเพิ่มตอนหลังนี่แหละ ตอนซื้อครั้งแรกมันช่วยไม่ได้เพราะผมไม่มีทางรู้ว่าบริษัทจะเปลี่ยนกลยุทธ์ ยอมขาดทุนไปก็จบ แต่นี่คือรู้สึกมีความลำเอียงชอบบริษัทนี้โดยไม่มีเหตุผลบวกกับไม่อยากยอมรับว่าพลาด ทั้งที่มันก็ชัดอยู่แล้วว่านี่มันไม่ใช่สถานการณ์ที่เราจะเดาอนาคตได้อย่างมั่นใจ อารมณ์คล้ายๆกับตอน NBC เลยครับ
6. Lookers
เคสนี้คือล่าสุดและเป็นเคสที่ความเสียหายรุนแรงสุดละ บริษัทนี้เป็นดีลเลอร์รถยนต์เจ้าใหญ่ในอังกฤษ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอันดับ 3 รองจาก Pendragon กับ Inchcape หุ้นนี้ผมซื้อสะสมหลายครั้งเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของ 2017 โดยรวมสุดท้ายซื้อไปด้วยเงินต้นประมาณ 4,000,000 บาท ที่ราคาเฉลี่ย 0.8 GBP
หลักๆที่ซื้อเลยคือหนึ่งมันก็เป็นผู้เล่นเจ้าใหญ่ในเรื่องค้าปลีกรถยนต์ทั้งรถใหม่และมือสองในอังกฤษ โดยรวมถามว่าเป็นบริษัทที่เข้มแข็งอะไรมากมั้ยก็เปล่า ผลประกอบการในช่วงนั้นก็ทำได้ดีจากการที่อุตสาหกรรมโดยรวมเติบโต แต่ทีนี้ราคาหุ้นมันตกด้วยความกังวลเรื่อง Brexit ว่ามันจะทำให้ยอดขายรถใหม่ตกหรือเปล่า ซึ่งในภายหลังปีต่อๆมามันก็ตกจริงนะ แต่ผมมองว่าผลของ Brexit ยังไงมันก็ชั่วคราวคนก็ต้องมีช่วงที่กลับมาซื้อรถใหม่ และในเวลานั้นรู้สึกว่ามันราคาถูกมาก ผมก็เลยเริ่มซื้อในช่วงนั้น โดยไอเดียคือไม่ได้ตั้งใจจะถือหุ้นไปยาว กะแค่ว่าไว้ตลาดรถกลับมาปกติก็ว่าจะขายแหละ
หลังจากนั้นมาหุ้นก็ตกเยอะไปอีกจาก COVID-19 พวกโชว์รูมรถยนต์โดนให้ปิดหมด ดังนั้นผลประกอบการมันจะแย่ก็ไม่แปลก ราคาที่ตกไปถึง 0.11 GBP ผมก็ไม่ได้กังวลอะไรมาก ตอนนั้นรู้สึกเสียดายนิดหน่อยด้วยว่าถ้ารู้ว่าจะมีโรคระบาดก็คงรอมาซื้อตอนนี้ดีกว่า
แต่ที่ทำให้ช็อคคือ ปรากฎว่ากรรมการบริษัทมีการแจ้งว่าบริษัทออกงบการเงินตัวเลขรายได้สูงเกินจริง สุดท้ายบริษัทไม่สามารถแก้ไขส่งงบได้ภายในเวลาที่กำหนดและหุ้นถูกหยุดการซื้อขาย มึนไปเลย ไม่อยากเชื่อว่าบริษัทที่ทำธุรกิจมาเกิน 100 ปีและที่ผ่านมาก็ทำได้ดียังจะอุตส่าห์ต้องโกหกตัวเลขรายได้อีก ลงทุนมาตั้งแต่ปี 2007 นี่เคยเจอเคสแบบนี้ครั้งนี้ครั้งแรกเลย กรณีแบบโกหกแบบนี้รู้ปุ๊บคือยังไงก็ต้องขายทิ้งทันที ขายไปที่ราคา 0.2 GBP ตอนปลายเดือนมิถุนายน 2020 นี่เอง คิดเป็นขาดทุน -75% ขนาดความเสียหาย 3,000,000 บาท
เรื่องนี้ก็สอนผมอยู่สองอย่าง หนึ่งเลยคือไอประเภทซื้อหุ้นบริษัทที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรแต่ซื้อเพราะราคาถูกอย่างเดียวนี่ไม่เอาละ ก่อนหน้านี้ Invesco ก็โดนไปที สองคือยังไงเราก็พลาดกันได้ ต้องมีการกันไม่ให้ถือหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งเยอะกว่าหุ้นอื่นมากๆ เพราะถ้าพลาดขึ้นมาความเสียหายมันถ่วงครั้งที่ไม่พลาดหลายครั้งหายหมด
สรุปบทเรียนทั้งหมดที่เรียนรู้อีกรอบคือ
- อย่าลงทุนในบริษัทที่ไม่มีอำนาจบังคับผู้บริโภค
- อย่าลงทุนในบริษัทที่เราไม่เห็นภาพว่าทำไมมันถึงดี ต่อให้ที่ผ่านมาดูทำได้ดีมากก็ตาม
- ไม่เอาละประเภทบริษัทงั้นๆที่ราคาตกเยอะ สู้ซื้อบริษัทดีราคาตกนิดหน่อยไม่ได้
- ยังไงความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้ ต้องมีมาตรการบางอย่างจำกัดไม่ให้ถือหุ้นใดหุ้นหนึ่งเยอะเกินไป
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/courses