การลงทุนใน Alternative Investments มีประโยชน์อะไรมั้ย ?

Are alternative investments any good ?

การลงทุนใน Alternative Investments มีประโยชน์อะไรมั้ย ?

อันนี้เป็นบทความของ Morningstar อีกอันที่ผมว่าน่าสนใจ ในบทความนี้เค้ามีเขียนสรุปว่าการลงทุนใน Alternative investments นี่ผลตอบแทนมันดีมั้ย มันมีประโยชน์อะไรในทางการกระจายความเสี่ยงหรือไม่ สรุปมันได้ผลในฐานะของส่วนหนึ่งของพอร์ตหรือเปล่า

ซึ่งจริงๆเรื่องนี้ผมเคยอ่านเจอในหนังสือสอบ CFA 3 ละ แล้วก็จำได้ว่ามันเหมือนจะมีประโยชน์นะ แต่ในหนังสือตอนนั้นมันจะเป็นช่วงปี 2000-2016 บทความนี้ก็เหมือนมาอัพเดทครับ

เพื่อให้เข้าใจตรงกัน Alternative investments ในที่นี้ Morningstar เค้ากำลังพูดถึงพวกกองที่ลงทุนใช้กลยุทธ์ของ Hedge funds หรือใช้กลยุทธ์ที่ไม่ได้ทำโดยกองทุนปกติเช่น
• Event Driven อันนี้คือใช้เหตุการณ์ของบริษัทหาโอกาสการลงทุนเช่น เรื่องควบรวมกิจการ, บริษัทเจ๊ง หรือเรื่องใหญ่อื่นๆ
• Options Trading ก็ตามชื่อคือมีการใช้ options เยอะ
• Relative Value Arbitrage อันนี้คือมองหาสินทรัพย์ที่มูลค่ามันควรจะเกี่ยวข้องกัน แล้วก็อาศัยเวลาที่มูลค่ามันเพี้ยนไปจากปกติ เช่นอาจจะเป็นหุ้นกู้กับหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทเดียวกัน
• Macro Trading อันนี้ก็เป็นกลุ่มกว้างๆที่ลงทุนโดยอาศัยการมองเทรนด์ตลาดภาพกว้าง
• Multi Strategy อันนี้ก็คือกองนึงทำหลายกลยุทธ์
• Equity Market Neutral อันนี้คือมีการ long และ short หุ้นให้มี Beta ของพอร์ตเท่ากับ 0 แล้วพยายามให้เกิดผลตอบแทนจากการซื้อหรือขายสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกันแล้วคิดว่าอันนึง Overvalued กับอีกอัน Undervalued

สิ่งที่เค้าทำคือเค้าเอากองทุนที่เป็นกลุ่ม Alternatives ทั้งหมดที่มีอายุอย่างน้อย 15 ปีขึ้นไปคือช่วงกุมภาพันธ์ 2007 ถึงมกราคม 2022 มาพิจารณา รวมถึงกองทุนที่รวมอาจจะไม่ได้เป็น Alternative Investments ซะทีเดียวแต่เป็นสินทรัพย์ประเภทที่นิยมใช้เพื่อการกระจายความเสี่ยงซึ่งคือ
1. Commodities กองทุนพวกนี้ลงทุนในฟิวเจอร์ของสินค้าพวกวัตถุดิบหรือสินค้าเกษตร
2. Real Estate กองทุนนี้จริงๆก็นับเป็น equity ประเภทนึงได้นะ แต่ส่วนใหญ่คนนิยมมองแยกออกมา
3. Precious metal stocks อันนี้คือพวกบริษัทที่ทำเหมือง ก็เป็น equity เหมือนกัน แต่คนนิยมมองแยกเช่นกัน

เรื่องที่พิจารณาเรื่องแรกคือ Total Return

เท่าที่ดูคือมีแค่ Real Estate เท่านั้นที่ผลตอบแทนดีกว่าตราสารหนี้ แต่ก็เข้าใจได้เพราะส่วนใหญ่กองที่เป็น Real Estate ก็คือลงทุนใน REIT ซึ่งเป็น equity แบบนึง และโดยปกติก็จะความผันผวนสูงกว่าตราสารหนี้มาก

ต่อมาดูเรื่อง Correlation เพราะแค่เรื่องผลตอบแทนอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่ประเด็น บางทีสาเหตุที่เราเอาสินทรัพย์ทางเลือกเข้ามารวมในพอร์ตเป็นเพราะมันขยับไปคนละทางกับสินทรัพย์อื่นในพอร์ต ก็จะเป็นการลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวมได้ อันนี้เค้าเทียบ Correlation ของกองทุน Alternatives กับกองทุนผสมที่มีหุ้นกับตราสารหนี้ 60/40 ตัวเลขที่ได้ยิ่งต่ำแบบติดลบไปเลยก็คือยิ่งดี ถ้าตัวเลขสูงเข้าใกล้ 1 เท่าไหร่ก็คือมันขยับไปในทิศทางเดียวกันและไม่มีประโยชน์ในเชิงของการทำให้พอร์ตเสถียรขึ้น

ผลออกมาคือก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่ ทั้งหมดเป็นบวกและบวกเยอะด้วยนะ แย่กว่า Intermediate Core Bond ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ในพอร์ตอยู่แล้ว 40% ซะอีก ที่ดูจะน้อยจริงก็มีแค่ Equity Market Neutral กับ Equity Precious Metals เท่านั้น ซึ่งเป็นอันที่ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำนะ

สุดท้ายมาดูภาพรวมว่าถ้าเอากอง Alternatives ปนเข้าไปจะทำให้ Sharpe ratio ของพอร์ตโฟลิโอดีขึ้นมั้ย เค้าลองโดยการจัดพอร์ตแบบ 60% เป็นกองหุ้นใหญ่ 20% เป็นกองตราสารหนี้ 20% เป็นกองแบบต่างๆ แล้วเอามาเทียบกัน


ผลลัพธ์ที่ได้คือ พอร์ตที่เป็นกองหุ้นใหญ่ 60% กับกองตราสารหนี้ 40% ให้ Sharpe ratio ที่ดีสุดอยู่ดี

สรุปแล้วคือ หลักฐานของ Morningstar บ่งชี้ว่ากอง Alternative Investments ดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ อย่างน้อยก็ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาครับ

อันนี้เป็นลิ้งค์ของบทความเผื่อคนสนใจอ่านครับ https://www.morningstar.com/articles/1081282/do-investors-need-alternative-investments

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี