Digitalization ส่งผลยังไงกับหุ้นบ้าง ??

How does Digitalization affect stocks ??

Digitalization ส่งผลยังไงกับหุ้นบ้าง ??

ผมเข้าใจว่าคนถามเค้าตั้งใจถามว่าบริษัทที่มีการลงทุนทำโปรเจค Digitalization เช่นเอา Chatbot มาตอบลูกค้า, ฯลฯ  ทำให้ผลทำให้บริษัทดีขึ้นมั้ย มีผลต่อราคาหุ้นหรือเปล่า ซึ่งเป็นคำถามที่ยากมากผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกว่าจะไม่ตอบละแต่ปรากฎว่าพอลองหาๆดูปรากฎว่ามีคนทำวิจัยหัวข้อประมาณนี้อยู่ครับ  ผมเลยเอาผลของงานวิจัยอันนึงที่ผมอ่านเจอมาเล่าให้ฟังคร่าวๆครับ

อันนี้เป็น working paper ของ Wilbur Chen กับ Suraj Srinivasan จาก Harvard Business School

เค้าทำการศึกษากลุ่มบริษัทที่ไม่ใช่สายเทคโนโลยี ที่กำลังมีโปรเจค digital เทียบกับบริษัทกลุ่มที่ไม่ได้มีโปรเจคแล้วมาดูว่ามีผลกระทบอะไรกับบริษัทหรือมีอะไรแตกต่างออกไปบ้าง  

วิธีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างคือเอาบริษัทมหาชนทั้งหมดช่วงปี 2010-2017 ในอเมริกามา  แล้วมาคัดพวกที่เป็นกลุ่ม IT หรือเทคโนโลยีออกไปโดยดูจากหมวดอุตสาหกรรม หลังจากนั้นก็มาหาคำที่เกี่ยวกับโปรเจค digital บนรายงานประจำปี 10-K และพวก presentation ตอนรายงานผลรายไตรมาส  บริษัทที่ใช้คำศัพท์กลุ่มพวก Analytics, AI, Big Data, Cloud, Machine Learning มากขึ้นเค้าก็นับว่าเป็นพวกทำโปรเจค ซึ่งเค้าพบว่ามีบริษัทที่พูดถึงโปรเจค digital เยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก  จากตอนปี 2010 มีบริษัทแค่ 4% ที่พูดถึง แต่ตอนปี 2017 มีบริษัทถึง 22% ที่พูดถึง

สิ่งที่เค้าพบคือบริษัทที่ทำโปรเจค digital

  1. โดยรวมเป็นบริษัทที่ใหญ่กว่า, อายุน้อยกว่า, มีการทำ R&D เยอะกว่า และมีการลงทุน CapEx น้อยกว่า  เมื่อเทียบกับบริษัทกลุ่มที่ไม่ได้ทำ แล้วเค้าก็เจอว่าบริษัทที่ผลประกอบการไม่ดีมีแนวโน้มจะทำโปรเจคพวกนี้มากกว่าบริษัทที่ผลประกอบการดี  เข้าใจว่าเป็นเพราะสถานการณ์บังคับมีผลให้ทำ
  2. ROA ลดลงเล็กน้อย  แม้ว่าจะผ่านไป 3 ปี
  3. Net Margin และ Sales Growth ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  เดาว่าอาจจะเป็นเพราะโปรเจคพวกนี้ใช้เงินลงทุนทำให้ผลการดำเนินงานลดลงในช่วงแรกแต่อาจจะดีขึ้นในระยะยาว  หรืออาจเป็นเพราะคู่แข่งก็เริ่มทำโปรเจคคล้ายๆกันดังนั้นประโยชน์ที่ได้จากโปรเจคพวกนี้เลยหายไป หรืออาจจะเป็นเพราะการทำโปรเจคพวกนี้ต้องใช้ผู้บริหารที่รู้เรื่องเทคโนโลยีถึงจะทำได้สำเร็จเพราะเค้าพบว่าบริษัทที่ทำโปรเจค digital โดยที่มีผู้บริหารที่ถนัดเทคโนโลยีจะมี ROA สูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันประมาณ 60% ได้
  4. Asset Turnover ดีขึ้น
  5. อัตราส่วน Price/Book ที่สูงมากขึ้นเมื่อเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันหลังจากที่มีการทำโปรเจคไป  คาดว่าเป็นเพราะนักลงทุนมองว่าโปรเจคประเภทนี้เป็นเรื่องดี
  6. การเพิ่มขึ้นของ Price/Book ทยอยเกิด  ไม่ใช่ขึ้นพรวดเดียวตอนที่บริษัทประกาศว่าจะทำโปรเจค  หมายความว่าถ้าเราซื้อหุ้นบริษัทที่ประกาศว่าจะทำโปรเจคทันทีตอนที่ประกาศ  โดยเฉลี่ยแล้วเราจะกำไรมากกว่าปกติ เค้าบอกว่าพอร์ตจำลองที่ใช้วิธีการนี้ได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติถึงปีละ 5% โดยเฉลี่ย

ประมาณนี้เลยครับ  ผมทิ้งลิ้งค์ไว้ให้เผื่อใครอยากไปอ่านเอง  ใน working paper เค้าจะมี reference งานวิจัยคนอื่นๆที่ทำหัวข้อเกี่ยวข้องกันด้วย  ถ้าสนใจมากก็ไปต่อยอดอ่านเอาเองเลยครับ http://www.hbs.edu/faculty/pages/download.aspx?name=19-117.pdf

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg