ช่วงนี้ความสนใจยังอยู่ในตุรกีอยู่ วันนี้ผมมาพูดถึงหุ้นบริษัท Turk Traktor กันครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าน่าจะเกี่ยวกับแทรกเตอร์ซึ่งปกติผมจะไม่ค่อยสนใจบริษัทที่ทำธุรกิจประเภทนี้เท่าไหร่ แต่อันนี้ราคาหุ้นเค้าตกลงมาเยอะจริงเลยอยากจะมาพูดถึงให้ฟังครับ
As of September 16, 2018 ราคาหุ้นอยู่ 46.42 TRY
ลักษณะธุรกิจ
Turk Traktor เป็นบริษัทผู้ผลิตรถแทรกเตอร์และรถเพื่อการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี ถือหุ้นหลักๆโดย KOC Holding (เป็นกลุ่มบริษัทใหญ่ที่ทำธุรกิจหลากหลายในตุรกีอารมณ์คล้ายๆเครือ CP ในไทย) และ CNH Industrial บริษัทผู้ผลิตพวกรถเพื่อการเกษตรและก่อสร้างขนาดใหญ่ของโลก
โมเดลธุรกิจของ Turk Traktor หลักๆคือออกแบบ, ผลิตและขายรถแทรกเตอร์, เครื่องจักรการเกษตร และรถใช้ในงานก่อสร้าง ยี่ห้อหลักที่ขายจะเป็น New Holland, Case, Steyr กับ TurkTraktor โดยทั่วไปคือขายผ่านผู้จัดจำหน่าย แต่ถ้าพวกรถใหญ่ๆหนักๆจะมีทีมขายตรง
รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายในประเทศตุรกี คิดเป็นประมาณ 73.8% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนแบ่งการตลาดของ Turk Traktor ในตลาดประเทศตัวเองอยู่ประมาณ 46% บางส่วนส่งออกไปขายต่างประเทศประมาณ 26% ของรายได้ เข้าใจว่าสิ่งที่ส่งออกก็จะมียี่ห้อ New Holland รุ่น TD ที่เป็นของ CNH Industrial เพราะบริษัท Turk Traktor เป็นฐานการผลิตหลักของรถรุ่นนี้ของโลก
แล้วที่ผ่านมาเป็นไง
ที่ผ่านมาก็ทำได้ดีอยู่ 10 ปีที่ผ่านมาหลังจากวิกฤตปี 2008-2009 บริษัทก็เติบโตขึ้นมาต่อเนื่อง ไม่ได้เติบโตเร็วพรวดพราดอะไร แต่ก็คิดว่าเติบโตตามเศรษฐกิจและภาคเกษตรกรรมของประเทศตุรกีแหละ ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทก็อยู่ 40% ปลายๆถึง 50% แบบนี้มาหลายปีแล้ว
สาเหตุหลักที่ภาคการเกษตรของตุรกีเติบโตน่าจะเป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เข้าใจว่าที่รัฐบาลสนับสนุนการพัฒนาภาคการเกษตรน่าจะเป็นเพราะประทศตุรกีมีการส่งออกสินค้าเกษตรไปในประเทศในสหภาพยุโรป ก็เลยมีความจำเป็นต้องพัฒนาภาคการเกษตรให้ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป ปัจจุบันรัฐบาลตุรกีมีการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน, ทำการชลประทาน, มีการช่วยเหลือเงินค่าปุ๋ยค่าน้ำมันและมีการสนับสนุนให้เรียนรู้และใช้วิธีการทำการเกษตรสมัยใหม่ Turk Traktor ที่ผลิตเครื่องจักรการเกษตรก็เลยได้รับประโยชน์ไปด้วย
ทำไมตอนนี้ถึงน่าสนใจ
อย่างแรกเลยคือราคาหุ้นมันตกลงมารุนแรงมาก ช่วงก่อนราคามันเคยอยู่แถว 80 TRY ตอนนี้ตกลงมาอยู่ 46 TRY นับเป็นตกประมาณ -42.5% ได้
สาเหตุที่ตกเข้าใจว่าเป็นเรื่องของความกังวลเรื่องเศรษฐกิจของตุรกีเป็นหลัก เพราะถ้าเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมแย่ คนก็เกรงว่าจะกระทบกับการเกษตรด้วย ซึ่งดูจากปัจจัยหลายอย่างรวมกันก็ดูจะมีปัญหาจริงแหละ ค่าเงิน Turkish Lira ที่อ่อนค่าลงมาก, หนี้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ, การขาดดุลงบประมาณ, การขาดดุลการค้า, เงินเฟ้อที่สูงมาก และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงมาก ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ดูมีปัญหาอยู่และผมก็คิดว่าน่าจะมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
แต่ถ้าสมมติเรามองไปในอนาคตยาวหน่อย เรามองข้ามช่วงอนาคต 2-3 ปีนี้ที่ประเทศตุรกีอาจจะมีปัญหาเศรษฐกิจ ก็เชื่อว่าภาคเกษตรกรรมโดยรวมก็น่าจะยังเติบโตอย่างช้าๆต่อไป และบริษัท Turk Traktor ก็น่าจะยังมีโอกาสทำได้ดีเพราะ
- ภาคการเกษตรเป็นส่วนสำคัญของตุรกี ประชากร 19% ของประเทศทำการเกษตร
- ภาคการเกษตรเริ่มใช้เครื่องจักรทันสมัยมากขึ้น มีการพัฒนาต่อเนื่อง
- รัฐบาลมีนโยบายให้การสนับสนุนชัดเจน ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้เงินกู้ยืม
- ระดับการใช้แทรกเตอร์ในตุรกียังต่ำอยู่เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วในสหภาพยุโรป
- ขนาดพื้นที่การเกษตรต่อแทรกเตอร์ 1 คัน ตุรกี 26 เฮกตาร์ สหภาพยุโรป 11 เฮกตาร์
ราคาในเวลานี้ 46.42 TRY ก็ถือว่าราคาถูกอยู่พอสมควรน่าจะปลอดภัยระดับหนึ่ง อย่างปีที่แล้วกำไรต่อหุ้นอยู่ 6.01 TRY สมมติปีนี้กำไรหดลงไปซัก 30% เหลือ 4.207 TRY เทียบกับราคาหุ้นตอนนี้อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อราคาหุ้นก็ยังอยู่ที่ 9.06% ได้ โดยรวมก็เลยเป็นบริษัทที่ผมกำลังสนใจอยู่ในเวลานี้ครับ
Disclosure
ปัจจุบันผมไม่ได้ถือหุ้นใน Turk Traktor แต่มีโอกาสสูงที่จะลงทุนใน Turk Traktor ในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าราคาตกลงไปอีก
ผมเขียนบทความนี้ด้วยตัวเองและเขียนจากความเห็นส่วนตัว ผมไม่ได้รับค่าตอบแทนใดหรือมีผลประโยชน์ทางธุรกิจใดๆกับบริษัทที่ผมพูดถึงในบทความนี้