ลงทุนยังไงต่อดี ตลาดจะไปทางไหนต่อ ? – สิงหาคม 2563
เอาจริงๆคือตอนนี้เดายากซะละ
ก่อนหน้านี้ที่เราคุยกันคือผมมองว่ามีโอกาสที่ตลาดจะตก เพราะเรื่องหลัก 2 เรื่องคือ
- การระบาดควบคุมไม่ได้ ทำให้มีความเสี่ยงว่าบางที่อาจต้องปิดเศรษฐกิจอีก และต่อให้ไม่ได้มีการปิดเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยก็ไม่น่าจะกลับมาเต็มที่
- ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทที่รายงานออกมาน่าจะเละ และภาคธุรกิจเองก็น่าจะมีบริษัทขนาดเล็กที่เงินทุนไม่หนาหรือมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลเริ่มหมดทยอยเจ๊งปิดกิจการเยอะขึ้น
สิ่งที่เราเดาไว้มันก็เกิดขึ้นจริงๆแหละ การระบาดก็ยังควบคุมไม่ได้และมีหลายประเทศที่กลับมาปิดเศรษฐกิจจริง ผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาหลายบริษัทก็แย่ลงชัดเจน และก็ยังมีบริษัททยอยปิดกิจการต่อเนื่อง
อันนี้เป็นสรุปสถานการณ์ภาพรวมในอเมริกา ผมเอามาจากเวปของ Bloomberg เค้าทำดีมากเลย
จะเห็นว่าสถานการณ์เรื่องการระบาดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจริงยังไม่ดีสีแดงเกือบหมด แต่ตลาดเงินตลาดทุนดีหุ้นขึ้น
ดูเหมือนตลาดหุ้นก็ไม่ได้ตกอะไรนักหนา หุ้นไทยตั้งแต่เดือนที่แล้วมาเดือนนี้โดยรวมก็ตกแค่จิ๊ดเดียว หุ้นยุโรปก็คล้ายๆกันคือตกมานิดเดียว ส่วนหุ้นอเมริกานี่ไปกันใหญ่คือสูงขึ้นไปอีก เป็นอะไรที่ผิดคาด
มันเป็นเพราะอะไรล่ะ ? อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจซะทีเดียวว่าเพราะอะไร แต่ส่วนตัวคือเดาว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากข่าวเรื่องวัคซีนที่ดูเหมือนจะก้าวหน้าเร็วกว่าที่คาด จากตอนแรกนี่เหมือนจะปีหน้านู่น แต่ข่าวที่ออกมาช่วงหลังนี้เหมือนจะเริ่มพูดว่าปลายปีนี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ในทางปฏิบัติเนื่องจากช่วยกันทำทั้งโลกผมก็ค่อนข้างเชื่อว่ามันจะเร็วกว่าที่คิดไว้ตอนแรกแหละ
และถ้ามันสำเร็จจริงๆขึ้นมาโอกาสหุ้นจะตกให้เราได้ซื้อก็จบละ ไม่ต้องรอให้ผลิตแจกจ่ายนะ แค่มีข่าวว่าได้วัคซีนที่ได้ผลปุ๊บคือจบละ ตลาดหุ้นจะ forward looking เศรษฐกิจจริงๆก็อาจจะยังไม่ฟื้นทันที แต่อย่าลืมว่าบริษัทในตลาดหุ้นไม่ใช่ทุกบริษัทในประเทศ ส่วนใหญ่ที่อยู่ในตลาดหุ้นมันเป็นบริษัทใหญ่กว่าทั่วไปซึ่งจริงๆได้ประโยชน์จากการที่บริษัทเล็กๆที่เป็นคู่แข่งเจ๊งไป ดังนั้นถ้าตลาดหุ้นมองว่าบริษัทขนาดใหญ่จะรอด ราคาหุ้นน่าจะขึ้นพรวดกลับไปและเราก็จะอดซื้อค่อนข้างแน่นอน
นอกเหนือจากวัคซีนแล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจเองก็เริ่มมีบางประเทศที่ดูดีขึ้น เลยอาจทำให้ตลาดหุ้นไม่ตกใจอย่างที่เราคาด อย่างจีนนี่เราก็ได้ข่าวว่าตัวเลขส่งออกเดือนกรกฎาคมโต บางประเทศในยุโรปเองก็เริ่มมีตัวเลขดีขึ้น เช่นเยอรมณีที่ตัวเลขความเชื่อมั่นดีขึ้นแล้วก็การผลิตดีขึ้น ฝรั่งเศสตัวเลขภาคบริการกับการใช้จ่ายผู้บริโภคดีขึ้น
แล้วแบบนี้ลงทุนยังไงต่อ ?
จากครั้งที่แล้วคือผมเชื่อว่าตลาดหุ้นมีโอกาสมากที่จะตกใช่มะ แต่ในเวลานี้เริ่มไม่แน่ใจละเพราะดูคนจะไม่ตกใจเท่าไหร่ แถมยังมีความเสี่ยงว่าถ้าวัคซีนเกิดสำเร็จขึ้นมาจริงๆก็ยิ่งจะทำให้ไม่ได้ซื้อซะอีก
ดังนั้นถ้าเป็นผมนะ ถ้ายังมีเงินสดเหลืออยู่ผมก็จะซื้อบริษัทที่ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดแล้วราคายังไม่ฟื้นกลับไปโดยสมบูรณ์ เช่นบริษัทที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว, บริษัทที่เป็นสินเชื่อหรือสถาบันการเงิน, ฯลฯ ยังไงถ้าบริษัทเหล่านี้รอดเราก็กำไรเยอะอยู่ ไม่ต้องรอราคาถูกกว่านี้แล้วซื้อก็ได้ ผมกลัวว่ารอมากไปจะกลายเป็นอดซะมากกว่า
ถ้าจะเหลือเงินสดไว้ซักหน่อยเผื่อมันมีราคาตกจริงๆขึ้นมา ผมว่าเหลือไว้ก็ได้แต่อย่าเยอะเกิน ฉวยโอกาสซื้อให้เยอะในระดับที่ถ้าราคามันไม่ตกแล้วเราไม่มานั่งเสียใจภายหลังดีกว่าครับ
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/courses