หัวข้อวันนี้เขียนให้นักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นครับ  หลายครั้งเวลาจัดสัมมนาผมมักจะเจอคำถามจากคนใหม่ๆว่าจะไปหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทได้จากที่ไหน  วันนี้ผมนำเสนอแหล่งข้อมูลที่คุณสามารถเปิดหาจากเน็ทอยู่บ้านได้สบายๆและใช้เวลาว่างเรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทได้ฟรี  ย้ำว่าฟรี  และเป็นข้อมูลสำคัญที่จะทำให้คุณได้เปรียบคนอื่นด้วย  เพราะคนจำนวนมากไม่ได้อ่านครับ

สมัยนี้ข้อมูลข่าวสารมีเยอะมาก  ตอนนี้ไม่ใช่ยุคขาดแคลนข้อมูลละครับแต่เป็นยุคของข้อมูลเยอะเกินไปจนงง  และส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อมูไม่ค่อยมีสาระนะผมว่า  เอาไปใช้อะไรไม่ค่อยได้  ผมเลยอยากจะนำเสนอรายการ Money Talk Weekly ครับ  เพราะรายการนี้ผมว่ามีประโยชน์ได้สาระที่สุดละเท่าที่ผมเคยเห็นตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมาครับ

เหตุผลที่ผมแนะนำรายการนี้คือ

หลายครั้งเวลาคนถามว่าผมหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับหุ้นจากไหน  ส่วนใหญ่ผมจะแนะนำให้ใช้เวปนี้ครับ  โดยส่วนตัวผมว่าข้อมูลเบื้องต้นเวปนี้ดีสุดละเท่าที่ใช้มา  ที่สำคัญฟรีด้วย

www.morningstar.com

ดีอย่างไรทำไมผมแนะนำ  เป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้ครับ

หุ้นปันผลนี่ดีนะ  โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนมีทิศทางไม่แน่นอน  เพราะปกติแล้วหุ้นกลุ่มนี้ผันผวนน้อยกว่า  ผมเลยอยากจะเล่าไอเดียการหาหุ้นประเภทนี้ครับ  เพราะเราน่าจะมีไว้บ้าง

โดยปกติเวลาพูดถึงหุ้นปันผล  ความหมายคือหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูง  จ่ายปันผลสม่ำเสมอ  ทำให้ผู้ลงทุนมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ  ไม่ต้องอาศัยกำไรจากตอนขายอย่างเดียว  เลยเป็นเหตุผลให้หุ้นกลุ่มนี้โดยธรรมชาติจะผันผวนน้อยกว่า  เป็นการลดความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม

ออปชั่นและฟิวเจอร์ในความเห็นผมเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก  ช่วงนี้ที่จัดสัมมนาพบว่ามีคนถามถึงเยอะขึ้น  ชัดเจนเลยว่ามีคนเริ่มสนใจมากขึ้น  น่าจะเป็นเพราะว่าการโฆษณาที่บอกว่า  “มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง”  คนก็เลยตื่นเต้นนึกว่าเป็นอะไรที่มีความเสี่ยงน้อย  หรือเป็นอะไรที่มีโอกาสมากกว่า  ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย

เราจะไม่พูดถึงรายละเอียดว่าออปชั่นกับฟิวเจอร์คืออะไรยืดยาว  ไปอ่านเพิ่มเติมเอาเองได้ที่ http://www.tfex.co.th/th/  แต่โดยสรุปสาระสำคัญคือถ้าเราจะกำไร  เราต้องเดาสองอย่างให้ถูกนั่นคือทิศทางกับเวลาซึ่งยากมาก  ตัวออปชั่นกับฟิวเจอร์มีจุดควรระวังดังต่อไปนี้

ปีเตอร์ ลินช์  เป็นหนึ่งในนักลงทุนระดับเทพของโลก  ช่วงที่เป็นผู้บริหารกองทุน Magellan ทำกำไรตกปีละ 29%  ที่สำคัญคือเค้าเป็นคนตลกด้วยครับ  ในหนังสือ One Up on Wall Street เค้าเขียนลักษณะของหุ้นในอุดมคติไว้ด้วย  และผมว่าเป็นเนื้อหาที่ดีมากเลยอยากแชร์เรื่องนี้ครับ  มันมี 13 ข้อดังต่อไปนี้

อย่างที่เคยคุยกันแหละ  หุ้นต่างประเทศหรือหุ้นไทยสุดท้ายมันก็คือความเป็นเจ้าของกิจการเหมือนกัน  ดังนั้นลงทุนในหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศก็คือการเลือกซื้อกิจการเหมือนกัน

ทีนี้ในความเห็นผม  ผมสนับสนุนให้เราไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ  แต่มันก็ไม่ได้แปลว่ามันมีแต่ข้อดีนะ  มันมีข้อเสียที่เราต้องระวังอยู่เหมือนกัน  ดังนั้นวันนี้ผมจะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของคร่าวๆให้ฟัง

กลยุทธ์การลงทุนส่วนใหญ่ที่เราได้ยินกันมักจะอ้างผลลัพธ์หลากหลาย เช่น  ใช้จะทำกำไรได้ยอดเยี่ยม  สามารถชนะตลาดได้  ทำได้อย่างง่ายดาย  ฯลฯ  ซึ่งบางทีเราฟังก็คิดไม่ทัน  เผลอไปเชื่ออะไรผิดๆก็เห็นอยู่ทั่วไป  ผมเสนอให้เราถามคำถาม 2 ข้อนี้กับกลยุทธ์การลงทุนใดๆ  ก่อนจะตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อ

เรื่องนี้ความคิดเห็นหลากหลาย  บางคนบอกน่าลงทุน  บางคนก็บอกไม่น่าลงทุน  ส่วนตัวผมแล้วไม่นิยมลงทุนในทองคำเลย  และไม่แนะนำให้ใครลงทุนด้วย  เพราะเหตุผลหลักที่รวมมาสรุปให้ดังต่อไปนี้

หลายครั้งเราจะเห็นข่าวพูดถึงรายได้ของบริษัทจดทะเบียน เช่น  “บริษัท A มีรายได้เติบโตก้าวกระโดด XX%”  เป็นการวาดภาพทำให้เรารู้สึกว่าบริษัท A นี่ต้องดีแน่เลย  แต่จริงๆมันอาจไม่ใช่อย่างนั้น  เพราะเราต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย  4 ข้อต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เราต้องไม่ลืมเช็ค