ในการขอเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น เค้าจะมีช่องให้เลือกว่าจะเปิดบัญชีประเภทไหน ทีนี้ชื่อมันจะคล้ายๆกันและทำให้คนจำนวนมากสับสน ในหัวข้อนี้ผมจะอธิบายแต่ละประเภทเพื่อให้เข้าใจว่ามันต่างกันอย่างไร
-
บัญชีเงินสด (Cash Account)
เป็นบัญชีที่เวลาเราสั่งซื้อเราต้องมีเงินหรือหลักประกันเป็นหุ้นอยู่ในบัญชีแค่ 15% ของมูลค่าที่ซื้อ แล้วหลังจากนั้น 3 วันถึงจะต้องมีเงินสดในบัญชีจริง และเวลาขายก็คล้ายๆกันคือถ้าสั่งขายวันนี้ จะได้เงินอีกที 3 วันหลังจากวันที่สั่งขาย หุ้นที่อยู่ในพอร์ตก็นับเป็นหลักประกันแบบเดียวกันตามมูลค่าในวันที่เราสั่งซื้อ
หลักๆมันจะมีประโยชน์อยู่สองอย่าง อย่างแรกสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างไม่สะดวกจะไปโอนเงินและไม่ต้องการจะทิ้งเงินสดไว้ในบัญชีหุ้นเยอะๆ กรณีที่เกิดจะซื้อหุ้นขึ้นมากระทันหันก็จะสามารถสั่งซื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องวิ่งไปโอนเงินหรือพลาดโอกาสไป
หรือแบบที่สองจะเป็นสำหรับคนที่ซื้อขายเก็งกำไรวันต่อวัน เนื่องจากถ้าคุณซื้อและขายในวันเดียวกัน เค้าจะไปทำรายการรวมกันทีเดียว 3 วันหลังจากนั้นและคำนวณเป็นส่วนต่างให้เลย แปลว่าคุณเหมือนคุณซื้อขายหลักทรัพย์ได้จำนวนมากโดยที่คุณใช้เงินเป็นหลักประกันแค่ 15% ของมูลค่าจริง เช่นสมมติคุณมีเงินหลักประกัน 15,000 บาท และจริงๆคุณก็มีเงินทั้งหมดเท่านี้แหละ แต่ด้วยบัญชีประเภทนี้คุณสามารถสั่งซื้อหุ้นมูลค่า 100,000 บาทได้ สมมติราคาหุ้นสุดท้ายตอนขายเพิ่มขึ้น 5% มูลค่าขายเป็น 105,000 บาท คุณจะเหมือนได้กำไร 5,000 บาท คิดเป็น 33% จาก 15,000 บาท (ยังไม่หักค่าบริการ) แต่ส่วนตัวผมไม่สนับสนุนการซื้อๆขายๆรายวันแนวเก็งกำไร
-
บัญชีเงินฝาก (Cash Balance Account)
บัญขีนี้เข้าใจง่ายครับ เวลาเราสั่งซื้อเราต้องมีเงินฝากไว้ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 100% ของมูลค่าหลักทรัพย์ที่ซื้อ ถ้าเราไม่มีเงินในบัญชีอยู่เราจะสั่งซื้อไม่ได้ เวลาโอนเงินเข้าบัญชีถ้าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนหนึ่งของธนาคารปกติแล้วจะสามารถสั่งซื้อขายได้ในทันที แต่ถ้าเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ได้เป็นเครือธนาคารปกติใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม.ก็จะซื้อขายได้ เข้าใจว่าในอนาคตก็น่าจะได้ทันทีเหมือนเครือธนาคาร
-
บัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance Account)
อันนี้เป็นบัญชีที่เหมือนคุณยืมเงินบริษัทหลักทรัพย์มาซื้อหุ้น โดยที่คุณจ่ายส่วนที่เป็นดอกเบี้ยเพิ่มเติมด้วย แต่บัญชีนี้ปกติแล้วเค้าไม่อนุมัติเปิดให้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องสนใจอะไร
-
บัญชีซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivatives Trading Account)
บัญชีนี้ใช้สำหรับซื้อขาย Futures หรือ Options ซึ่งเป็นลักษณะสัญญาที่ราคาอ้างอิงตามหลักทรัพย์
-
บัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ (Global Trade Account)
ตามชื่อครับ เอาไว้ซื้อหุ้นในตลาดต่างประเทศ แต่ละบริษัทหลักทรัพย์ไปลงทุนได้ตลาดไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่ามีการติดต่อไว้หรือไม่
อัตราค่าคอมมิชชั่นของบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แต่ละประเภท
|
ให้มาร์เก็ตติ้งทำ |
จัดการเอง
|
บัญชีเงินสด |
0.25%
|
0.2%
|
บัญชีเงินฝาก |
0.2%
|
0.15%
|
บัญชีซื้อขายตราสารอนุพันธ์ |
แล้วแต่ประเภทสัญญา
|
แล้วแต่ประเภทสัญญา
|
บัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ |
แล้วแต่ประเทศ
|
แล้วแต่ประเทศ
(บางประเทศสั่งซื้อเองไม่ได้)
|