ตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ (Economic Indicator) ที่เราควรรู้ หลักๆคืออะไร หาได้จากไหน ?

Which Economic Indicators should you know and where to find them.

ตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ (Economic Indicator) ที่เราควรรู้ หลักๆคืออะไร หาได้จากไหน ?

มีนักเรียนอยากให้เราพูดถึง “การมองจังหวะเข้าซื้อ กรณี Top Down Approach ว่าควรมองยังไง สังเกตอะไรเป็นสัญญาณ/ตัวชี้วัด หรือดูค่ากราฟของเศรษฐกิจยังไง”

คุยกันให้ชัดเจนก่อนเลยคือเวลาที่ผมลงทุนเงินของตัวเอง  ผมไม่ได้ใช้ Top Down approach และก็ไม่ได้ใช้สัญญาณหรือตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอะไรในการตัดสินใจก็เลยไม่ได้มีสอนเรื่องนี้บน Online Course  แต่เนื่องจากเคยเรียนเศรษฐศาสตร์มาและในเมื่อนักเรียนอยากให้พูดถึงผมก็จะอธิบายเท่าที่รู้ให้ฟังในวีดิโอนี้  แต่ผมอธิบายได้แค่ว่า Economic indicator แต่ละอย่างคืออะไรและบอกอะไรกับเราได้เท่านั้น  จะเอามันไปใช้มองจังหวะเข้าซื้อยังไงคุณคงต้องไปคิดเองละผมช่วยไม่ได้เพราะตัวผมไม่ได้ใช้

  1. GDP Growth
  2. อันแรกที่คนพูดถึงบ่อยสุดก็คือเลขการเติบโตของ GDP (Gross domestic product) หรือผลผลิตมวลรวมของประเทศ

    อันนี้ก็ตรงไปตรงมา  ถ้าตัวเลขนี้เป็นตัวเลขติดลบก็คือเศรษฐกิจโดยรวมหดตัว  หรือถ้าเลขนี้เป็นบวกนะแต่น้อยลงเรื่อยๆในช่วงปีที่ผ่านๆมาก็มักเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจโตใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว

    จุดบอดอย่างหนึ่งของตัวเลขนี้คือมันต้องเก็บข้อมูลเยอะมันก็จะอัพเดท real-time ไม่ได้  ดังนั้นเลขส่วนใหญ่ที่รู้ชัดเจนก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว  ถ้าจะเอาไว้ดูอนาคตมันก็จะไม่มี  มีแต่เลขคาดการณ์  ซึ่งไปดูได้ของ Bank of Thailand กับของ IMF

    https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/MonetPolicyComittee/MPR/Pages/default.aspx

    https://www.imf.org/external/datamapper/NGDP_RPCH@WEO/OEMDC/ADVEC/WEOWORLD

     

  3. อัตราการว่างงาน
  4. โดยปกติเลขนี้สูงขึ้นก็คือคนว่างงานเยอะขึ้น  มันก็เป็นสัญญาณว่าไม่ดีแหละ

    แต่สำหรับประเทศไทยเลขนี้ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่เพราะประเทศไทยเราอัตราการว่างงานต่ำมาก  เข้าใจว่าเป็นเพราะประเทศไทยเรามี informal sector ใหญ่  แต่สมมติใครอยากดูตัวเลขนี้ก็ไปดูได้ที่เวปธนาคารแห่งประเทศไทยอีกเช่นกัน

    https://www.bot.or.th/Thai/Segmentation/Business/Pages/UnemploymentRate.aspx

     

  5. เงินเฟ้อ
  6. สูงไปไม่ดี  ต่ำไปก็ไม่ดี  ต้องมีแบบอ่อนๆกำลังดี

    https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=409&language=TH

     

  7. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
  8. อันนี้มันเป็นตัวเลขจากการสุ่มสอบถามความคิดเห็นคนว่าคิดว่าจะจับจ่ายซื้อของเพิ่มขึ้นหรือเท่าเดิมหรือว่าลดลง  เค้ารวมเอาคำตอบมาทำเป็น index  ถ้าตัวเลขเกิน 50 ก็คือคนตอบว่าเพิ่มขึ้นมีเยอะกว่า  ก็แปลว่าคนเชื่อมั่นและน่าจะมีการบริโภคมากขึ้น  เลข 50 พอดีคือเท่าเดิม  ส่วนเลขต่ำกว่า 50 คือคนตอบว่าน้อยลงมีเยอะกว่า

    ผมเห็นมีตัวเลขนี้อยู่ที่เวปของกระทรวงพาณิชย์

    http://www.indexpr.moc.go.th/PRICE_PRESENT/cbi/cbi_index.asp?list_year=2563&type_index=cci&lu=t

     

  9. ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ
  10. คล้ายๆกับของผู้บริโภคแต่เปลี่ยนเป็นถามผู้ประกอบการแทน

    หาได้บนเวปของธนาคารแห่งประเทศไทย  “ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ”

    https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/EconomicIndices/Pages/default.aspx

     

  11. ตัวเลขการซื้อสินค้าทุน, ยอดขายเครื่องจักรและตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
  12. พวกนี้ก็เป็นตัววัดความต้องการของคนในตลาดแบบหนึ่ง  ถ้าผู้บริโภคซื้อของ  ผู้ผลิตก็จะซื้อของและมีผลิตซึ่งสะท้อนในตัวเลขเหล่านี้

    หาได้บนเวปของธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นกัน  “ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนและองค์ประกอบที่ปรับฤดูกาล”

    https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/EconomicIndices/Pages/default.aspx

 

และจะเห็นว่ามีข้อมูลอื่นๆอีกมาก  ก็ขอให้ไปดูเองละกันครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/courses