ทำไมเราสนใจหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด แต่ไม่สนใจหุ้นที่ได้รับประโยชน์ ?
มีคนฟังวีดิโอเราแล้วสงสัยว่าทำไมดูเหมือนเราสนใจหุ้นที่โดนผลกระทบจากโควิด ทำไมเราไม่สนใจหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากโควิด
อันนี้ผมตอบครอบคลุมเหตุการณ์โควิดและวิกฤติอื่นๆด้วยเลย เอาจริงๆผมว่าน่าจะเป็นสไตล์แล้วแต่คนชอบมากกว่าครับ
ถ้าจะลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากวิกฤติ อย่างกรณีโควิดอาจจะเช่นบริษัทผลิตหน้ากาก, ถุงมือยาง, ฯลฯ ก็ต้องซื้อเร็วหน่อย คือซื้อตั้งแต่ต้นๆที่เกิดเรื่อง แล้วก็ไม่สามารถถือยาวนานเกินไปได้ ถ้าจะให้กำไรสูงสุดก็ต้องขายก่อนวิกฤติจะจบ เพราะต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ผิดปกติมันทำให้บริษัทขายดีมากผิดปกติ หมายความว่าถ้าเหตุการณ์ผิดปกติที่ว่านั่นหายไป ยอดขายที่ดีขึ้นกว่าปกติมันก็จะหายไปด้วย แล้วถ้ายอดขายสุดท้ายลดลงเดี๋ยวราคาหุ้นยังไงก็จะตามผลประกอบการ ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการถือยาว หนึ่งในตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ที่ผมนึกออกก็อย่างเช่น Top Glove ที่ทำถุงมือยางครับ ถ้าดูผลประกอบการย้อนหลังก็จะเห็นว่าก่อนโควิดเค้าก็ทำได้ไม่เลวนะ แต่พอเกิดโควิดปุ๊บผลประกอบการพุ่งเลย ยิ่งถ้าดู TTM นี่คือรายได้เติบโตกำไรเติบโตเยอะมาก ราคาหุ้นก็เช่นกันพุ่งพรวดขึ้นมาเลย แต่ทีนี้ในระยะยาวล่ะ ถ้าโควิดจบไปความต้องการถุงมือของโลกมันจะสูงไปตลอดเชียวหรือ
ส่วนถ้าจะลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ อย่างกรณีโควิดนี่ สิ่งที่เราทำคือมองหาหุ้นที่ก่อนโควิดมันก็เข้มแข็งและทำได้ดีสม่ำเสมออยู่ จนมาเจอโควิดทำให้ผลประกอบการแย่ลงและราคาหุ้นตกรุนแรง เราก็เลือกซื้อที่เราพิจารณาว่ามันจะรอดโควิดไปได้กับถ้ารอดไปได้มันจะกลับมาทำได้ดีเหมือนเดิม ข้อดีของกลุ่มนี้คือไม่ได้ต้องรีบเท่าอีกกลุ่มนึง มีเวลาให้ติดสินใจ และที่สำคัญคือถือยาวเลยโควิดจบไปเลยก็ได้ เพราะยิ่งถือยาวบริษัทก็ยิ่งทำได้ดีขึ้น ราคาหุ้นสุดท้ายก็จะปรับตาม นึกภาพดูว่าที่บริษัททำได้แย่ลงเป็นเพราะเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้น เมื่อเหตุการณ์พิเศษนั้นหายไปบริษัทก็จะกลับมาทำได้ดีเหมือนเดิม และในเมื่อก่อนหน้าเหตุการณ์พิเศษบริษัทมันก็เข้มแข็งและทำได้ดีอยู่แล้ว พอเหตุการณ์หายไปบริษัทก็กลับมาเข้มแข็งและทำได้ดีขึ้นตามปกติ เราได้ซื้อบริษัทแบบนั้นมาตอนที่มันราคาถูกพิเศษพอดีอีกต่างหาก ก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องรีบขายมั้ย แต่ข้อเสียคือซื้อหุ้นกลุ่มนี้ก็อาจต้องรอนานนิดนึง เมื่อไหร่ผลกระทบจากเหตุการณ์ผิดปกติถึงจบล่ะ อย่างโควิดนี่ก็อาจจะนาน กับอาจจะเสี่ยงไปอีกแบบคือบริษัทมันต้องรอดจากวิกฤตินะ ถ้าเจ๊งไปก่อนระหว่างทางเราก็เดือดร้อน
สรุปคือ ทั้งสองแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียแหละ ที่ผมพูดถึงหุ้นกลุ่มโดนผลกระทบบ่อยก็แค่เพราะส่วนตัวผมชอบไปทางนั้นก็เท่านั้นเองครับ คุณจะลงทุนในกลุ่มไหนก็ได้แล้วแต่ แค่ต้องเข้าใจข้อจำกัดของมันไว้เท่านั้นเอง
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี