ลงทุนในหุ้น ROE สูง จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าจริงหรือเปล่า ?
ลงทุนในหุ้น ROE สูงให้ผลตอบแทนดีกว่าจริงมั้ย ?
เป็นคำถามที่น่าสนใจอยู่นะ คือเรารู้กันอยู่แล้วว่า ROE หรือ Return On Equity เป็นอัตราส่วนที่เปรียบเทียบระหว่างกำไรที่บริษัททำได้กับส่วนของผู้ถือหุ้น บริษัทที่ ROE สูงกว่าก็แปลว่าด้วยเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นเท่าๆกันบริษัทสามารถทำกำไรได้เยอะกว่า ดังนั้นโดยความหมายคือ ROE ที่สูงแปลว่าเป็นบริษัทที่ดีกว่าแน่นอนละ
แต่ปัญหาคือบริษัทที่ ROE สูงจะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าด้วยจริงหรือเปล่า เพราะคนส่วนใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่า ROE สูงแปลว่าดีและดังนั้นหุ้นที่ ROE สูงก็จะเป็นหุ้นที่มักจะราคาสูงด้วย ซึ่งถ้าตามทฤษฎีแล้วมันควรจะผลตอบแทนออกมาพอๆกัน
ส่วนตัวผมก็เชื่อว่าบริษัทที่ ROE สูงจะทำกำไรดีกว่าและดังนั้นในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนดีกว่าแหละ แต่เพื่อตอบคำถามแบบนี้ให้ชัวร์ผมเลยไปหาดูว่ามีคนทำวิจัยเรื่องนี้แล้วได้ผลว่าไงบ้าง
โดยรวมดูเหมือนจะมีหลายงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าปัจจัยเรื่องคุณภาพของบริษัทมีผลต่อผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญ
Article จาก Blackrock
https://www.blackrockblog.com/2019/05/10/us-stocks-outperformance/
ผมเจอบทความของ Blackrock เขียนโดย Russ Koesterich, CFA ที่เชื่อว่า ROE ที่สูงทำให้ผลตอบแทนสูงกว่า เค้าเทียบผลตอบแทนโดยรวมของหุ้นอเมริกา (S&P 500) กับหุ้นประเทศอื่นทั่วโลก (MSCI All Country World Index excluding-US) พบว่าตั้งแต่ปี 1990-2009 หุ้นอเมริกากับหุ้นอื่นทั่วโลกไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ หุ้นอเมริกาผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นอื่นทั่วโลกอยู่โดยเฉลี่ย 0.22% ต่อเดือน ถ้าใช้ค่ากลางที่ตัดผลของค่าที่สูงหรือต่ำมากออกก็จะได้ว่าหุ้นอเมริกาผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นอื่นทั่วโลกอยู่แค่ 0.08% ซึ่งก็คือเรียกว่าแทบไม่ต่างกัน แต่ตั้งแต่ปี 2010 มาถึงตอนนี้ปรากฎว่าหุ้นอเมริกาให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นประเทศอื่นอยู่ 0.7% ต่อเดือนโดยเฉลี่ยซึ่งถือว่าสูงอยู่และสูงกว่าเดิมมาก
ผู้เขียนก็ตั้งคำถามว่าทำไมหุ้นอเมริกาถึง outperform หุ้นอื่นทั่วโลกเยอะขนาดนั้น เค้าเชื่อว่าเป็นเรื่องความสามารถในการทำกำไรของบริษัท เค้าพบว่าส่วนต่างของ ROE เฉลี่ยของหุ้นในอเมริกากับหุ้นอื่นทั่วโลกในช่วงก่อน 2010 อยู่ที่ 1.5% ซึ่งคือต่างกันนิดเดียวและที่สำคัญช่วงก่อนปีก่อนถึงวิกฤติเศรษฐกิจและช่วงวิกฤติ ROE ของหุ้นในอเมริกาต่ำกว่าหุ้นอื่นทั่วโลก แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปหลังวิกฤติเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2010 ROE เฉลี่ยของหุ้นอเมริกาสูงกว่าหุ้นอื่นทั่วโลกถึง 3.7% และไม่มีเดือนไหนเลยที่หุ้นอเมริกา ROE เฉลี่ยต่ำกว่าหุ้นอื่นทั่วโลก คนเขียนเชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรนี่แหละที่ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง
Discussion note ของ Norges Bank (ธนาคารกลางของ Norway)
https://www.nbim.no/contentassets/0660d8c611f94980ab0d33930cb2534e/nbim_discussionnotes_3-15.pdf
อันนี้ผมว่าอ่านง่ายดี ธนาคารกลางของ Norway เอางานวิจัยและหลักฐานว่าปัจจัยเรื่องคุณภาพของธุรกิจมีผลต่อผลกำไรของการลงทุนมาเขียนสรุปใจความและวิเคราะห์เหตุผลหรือข้อโต้แย้งให้เราอ่าน
โดยรวมคือมันมีคนทำวิจัยหัวข้อนี้หลายคน แต่เค้าวัดคำว่าคุณภาพของธุรกิจต่างกัน บางคนก็ใช้ Profitability ความสามารถในการทำกำไรเช่น Gross Profit / Total Assets, ROE, ROA บางคนใช้ตัวเลขเรื่องความเสี่ยงจากหนี้สินเช่น Debt / Assets หรือบางคนก็วัดเรื่องคุณภาพของกำไรเช่นความผันผวนของกำไรต่อหุ้น, ส่วนต่างของรายการเกณฑ์เงินสดกับเกณฑ์คงค้าง
และผลที่ได้ในหลายงานวิจัยคือคุณภาพของธุรกิจมีผลและดูเหมือนเรื่อง Profitability จะมีผลชัดเจน โดยหุ้นที่คุณภาพของธุรกิจดีดูจะทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนในช่วงตลาดขาลง
เค้ายกตัวอย่างช่วงมกราคม 1994 ถึงมิถุนายน 2015 จากตัวอย่างหุ้นทั่วโลกที่ความสามารถในการทำกำไรสูงสุด 20% แรก (กำไรขั้นต้นเทียบกับทรัพย์สิน) ให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นที่ความสามารถในการทำกำไรต่ำ 20% สุดท้ายอยู่มากกว่า 6 เท่า
จริงๆในบทความก็จะมีพูดถึงผลงานวิจัยของคนอื่นๆว่าวัดอะไรแล้วได้ผลว่าอะไร ส่วนใหญ่จะได้ผลออกมาชัดเจนว่าบริษัทที่มีคุณภาพดีให้ผลตอบแทนสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลตอบแทนที่มากกว่านี้ไม่สามารถถูกอธิบายด้วยปัจจัยที่เคยศึกษามาใน four-factor model ของ Carhart แล้วตัว Norges Bank ก็มีทำการวิจัยเองด้วยซึ่งเค้าอธิบายวิธีการและผลลัพธ์ของเค้าอย่างละเอียดไว้ในบทความนี้ ซึ่งก็สรุปออกมาว่าปัจจัยเรื่องคุณภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสามารถในการทำกำไรมีผลชัดเจน ส่วนพวกเรื่องความเสี่ยงขนาดหนี้สินดูมีผลน้อย เค้ามีคุยด้วยว่าทำไมผลมันถึงออกมาแบบนี้ มีคนโต้แย้งผลงานวิจัยด้วยเหตุผลอะไร มีคนวิจัยแล้วพยายามอธิบายไว้ยังไงบ้างอ้างอิงจากอะไร ถ้าสนใจก็ลองไปอ่านดูเองละกันเพราะยาวอยู่ แต่น่าสนใจอยู่ผมก็แนะนำให้อ่านครับ
ดังนั้นสรุปคือ การลงทุนในหุ้น ROE สูงให้ผลตอบแทนดีกว่าจริงครับ
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg