แบบทดสอบ : คุณเป็น VI แค่ไหน ?

Quiz : How Much VI are You ?

แบบทดสอบ : คุณเป็น VI แค่ไหน ?

เร็วๆนี้ผมไปทำ Quiz ของ Schroders บริษัทบริหารจัดการลงทุนในอังกฤษแล้วรู้สึกว่าสนุกดีก็เลยแปลบางส่วนมาให้ลองทำดูครับ

  1. สำหรับนักลงทุนสาย VI “ความเสี่ยง” สอดคล้องกับข้อใดต่อไปนี้ ?
    • ความผันผวนคือความเสี่ยง
    • หุ้นที่ราคาถูกมีความเสี่ยงสูงเสมอ
    • ความเสี่ยงคือโอกาสที่จะสูญเสียเงินต้นอย่างถาวร
  2. ถ้าอิงตามที่เรียนมาในห้องเรียน “ความเสี่ยง” มันจะวัดด้วยความผันผวน  แต่สำหรับนักลงทุนสาย VI แล้ว “ความเสี่ยง” คือโอกาสที่จะสูญเสียเงินต้นอย่างถาวรต่างหาก  โดยปกติแล้วมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่เราเห็นราคามีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วในระยะสั้นมันเป็นตัวบ่งชี้ถึงอารมณ์ของคนในตลาดมากกว่า  ที่จริงแล้วความผันผวนเป็นสิ่งที่สร้างโอกาสให้กับนักลงทุนระยะยาวด้วยซ้ำ
     

  3. เวลาตัดสินใจลงทุนในหุ้น  นักลงทุนสาย VI มองระยะยาวแค่ไหน
    • 1 เดือน
    • 1 ปี
    • 3-5 ปี
  4. การลงทุนในหุ้นแบบ VI คือมองหาหุ้นที่ราคาตอนนี้ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง  ซึ่งโดยปกติมันต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าตลาดจะเริ่มมองเห็นมูลค่าของบริษัทและราคาหุ้นเริ่มสูงขึ้นมาหามูลค่าที่แท้จริง
     

  5. ปัจจัยอะไรสำคัญต่อผลตอบแทนการลงทุนที่สุด
    • ราคาที่ซื้อ
    • โอกาสการเติบโตของบริษัท
    • สภาพเศรษฐกิจ
  6. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนมากที่สุดคือราคาที่ซื้อ  โอกาสการเติบโตของบริษัทกับสภาพเศรษฐกิจมันเป็นเรื่องที่นักลงทุนควบคุมไม่ได้  และต่อให้โอกาสการเติบโตของบริษัทไม่สูงกับสภาพเศรษฐกิจไม่ดีแต่ถ้าได้ซื้อในราคาที่ต่ำเพียงพอมันก็ยังเป็นการลงทุนที่ดีในระยะยาวได้
     

  7. เงินเฟ้อกับอัตราดอกเบี้ยสำคัญแค่ไหน
    • สำคัญเพราะปัจจัยพวกนี้เกี่ยวข้องกับสภาพเศรษฐกิจ
    • อัตราดอกเบี้ยสำคัญ  เงินเฟ้อไม่สำคัญ
    • ไม่สำคัญทั้งคู่
  8. ทั้งสองปัจจัยเป็นอะไรที่เราไม่สามารถรู้อะไรล่วงหน้าได้  การไปคิดถึงมันไม่เกิดประโยชน์อะไรและการตัดสินใจลงทุนของเราไม่ควรให้ปัจจัยพวกนี้มามีผลกระทบ
     

  9. บริษัทปรับคาดการณ์ผลประกอบการลง -10%  ราคาหุ้นของบริษัทเลยตกไป -30% สิ่งที่เราควรทำคือ …
    • ซื้อหุ้นทันทีเพื่อให้ได้ราคาใหม่ที่ถูกลงเยอะแล้วนี้
    • ขายหุ้นทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ราคามันจะตกลงไปอีก
    • ศึกษาข้อมูลที่บริษัทประกาศและดูว่ามันทำให้พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
  10. นักลงทุน VI มองการลงทุนระยะ 3-5 ปี  การตอบสนองทันทีกับสิ่งที่อาจจะเป็นเรื่องระยะสั้นไม่สอดคล้องกับแนวการลงทุน  สิ่งที่ควรทำคือใจเย็นๆแล้วทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินว่าพื้นฐานของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดรุนแรงหรือเปล่า  แล้วจึงค่อยคิดว่าต้องซื้อหรือขายอะไรมั้ย
     

  11. หุ้นขึ้นมา 30% ในช่วงเดือนเดียว  ตลาดคาดว่าบริษัทจะเติบโต 100% และราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนความคาดหวังนี้แล้ว  สิ่งที่เราควรทำคือ …
    • ซื้อหุ้นเนื่องจากมันมีโมเมนตัมชัดเจน
    • อย่าซื้อเพราะกรณีนี้ไม่เข้าข่ายหุ้นราคาถูก
    • ซื้อเพราะถ้ากำไรของบริษัททำได้ดีกว่าที่ตลาดคาดราคานี้ก็ถือว่าถูก
  12. หุ้นนี้ราคาสูงขึ้นมามากจากความคาดหวังว่าบริษัทจะทำได้ดีขึ้น 100% เป็นอะไรที่เยอะมากแล้ว  ไม่เข้าข่ายธุรกิจที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ไม่เหมาะกับการลงทุนสาย VI
     

  13. สมมติว่าธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย  สิ่งที่เราควรทำคือ …
    • ปรับพอร์ตการลงทุนให้จะได้ประโยชน์จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
    • ขายหุ้น  เพราะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้โดยรวมคนอยากลงทุนในหุ้นน้อยลง
    • ไม่สนใจ  ให้ความสำคัญกับการซื้อหุ้นในราคาถูกต่อไป
  14. ปัจจัยพวกนี้ไม่แน่นอนคาดเดาไม่ได้และไม่ควรให้มันมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของเรา

 

เป็นไงบ้างครับ  เราเป็นนักลงทุน VI ขนาดไหนกันบ้างครับ ?

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg