แบบไหนถึงจะเรียกว่า “โอกาส” ?

What counts as "opportunity" ?

แบบไหนถึงจะเรียกว่า “โอกาส” ?

วิธีลงทุนที่ผมใช้คือซื้อกิจการที่ยอดเยี่ยมและซื้อมันให้ได้ในราคาถูกโดยอาศัยการฉวยโอกาสจากเวลาที่คนตกใจใช่มั้ยครับ  ทีนี้ก็มีนักเรียนที่ถามว่าอย่าง KTC ที่ราคาตกอย่างรวดเร็วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เรียกว่าเป็น “โอกาส” มั้ย  หรือมันต้องยังไงถึงจะเรียกว่า “โอกาส”

เอาง่ายๆละกันนะ  เวลาที่หุ้นบริษัทที่เราชอบมันราคาตกลงมาพอสมควรมันก็เรียกว่า “โอกาส” หมดแหละ  เราสมควรจะไปดูในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น  แล้วเราจะซื้อหรือเปล่านี่ก็อีกเรื่องนะ  ไม่ใช่ว่าทุก “โอกาส” ที่เกิดขึ้นเราจะซื้อหมดนี่

บางคนก็ถามต่อว่าที่บอกราคาตกพอสมควรนี่มันคือต้องตกขนาดไหน ?  มันก็ไม่มีกฎตายตัวอะไรขนาดนั้นนะคือเอาที่คุณว่ามันตกเยอะมากระดับนึงที่จะทำให้คุณสนใจไปดูน่ะ  ส่วนตัวผมก็ตั้งคร่าวๆไว้ว่าตกซัก 15% จะเรียกว่าน่าสนใจ

แล้วที่ว่าดูในรายละเอียดนี่หลักๆแล้วก็คือดูสาระสำคัญและถามตัวเองในเรื่องต่อไปนี้

  1. ไปดูว่าเรื่องที่ทำให้ราคาหุ้นตกนี่มันเรื่องอะไร
    1. มีผลกระทบกับผลประกอบการจริงหรือเปล่า
    2. ถ้ามี  มีไปตลอดมั้ย
    3. ถ้าไม่ได้มีไปตลอด  บริษัทจะรอดจากเหตุการณ์นี้หรือเปล่า
  2. บริษัทน่าจะยังทำได้ดีต่อไปในอนาคตหรือเปล่า
  3. ด้วยราคานี้เราพร้อมจะเสี่ยงลงทุนในบริษัทนี้มั้ย
  4. คิดเผื่อไว้ด้วยว่า  
    1. สถานการณ์ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้นคืออะไร  ต้องคอยสังเกตอะไร
    2. ถ้าต้องถือหุ้นบริษัทนี้ยาวไป 3-5 ปี  สบายใจที่จะถือมั้ย

หลักการมันก็มีง่ายๆแค่นี้แหละ  โฟกัสไปที่ตัวธุรกิจของบริษัทแล้วก็เลิกถามคำถามระยะสั้นที่ยังไงมันก็ไม่มีทางรู้เช่นราคามันจะตกลงไปอีกมั้ยหรือซื้อแล้วราคามันจะขึ้นมั้ย  ความยากมันก็จะอยู่ในรายละเอียดที่เราต้องไปหาข้อมูลมากกว่าละ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/courses