As of October 22, 2017 ราคาหุ้นอยู่ 923.34p (100p = 1 GBP)
อันนี้เป็นบริษัทในอังกฤษครับ ผมอาจจะไม่ได้อินกับลักษณะธุรกิจของบริษัทนี้เท่าไหร่ แต่ผมมาตื่นเต้นตอนช่วงปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมา มันมีวันนึงที่ราคาหุ้นนี้ตกวันเดียวมากกว่า 70% เลยทีเดียว วันนี้มาเล่าเกี่ยวกับบริษัทนี้ให้ฟัง
Provident Financial plc
ลักษณะธุรกิจ
บริษัทนี้ตั้งแต่ดั้งเดิมทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าซับไพร์ม หรือก็คือกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงในการไม่จ่ายสูงกว่าปกติ เช่นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย หรือกลุ่มคนที่เคยมีประวัติเสียเรื่องการจ่ายหนี้ ไอเดียก็คือใช้วิธีการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยสูงมากเป็นตัวทดแทนความเสี่ยงหนี้เสีย มีการติดตามใกล้ชิด แล้วก็ให้เงินกู้แต่ละรายเป็นเงินจำนวนน้อยๆ ในภายหลังก็มีมาทำสินเชื่อซื้อรถ, ธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อออนไลน์
จุดเด่นอีกอย่างของบริษัทนี้คือมีการใช้ระบบตัวแทนอิสระไปเสนอขายสินเชื่อและเก็บเงิน ทำให้เข้าถึงชุมชนหรือลูกค้าได้ระดับตัวต่อตัวและไปหาได้ถึงบ้านลูกค้าเลย
แล้วที่ผ่านมาเป็นไง
10 ปีที่ผ่านมาก็กำไรมาโดยตลอด ช่วงปี 2008 ที่มีวิกฤติเศรษฐกิจบริษัทก็ได้รับผลกระทบแหละแต่หลังจากนั้นก็ฟื้นกลับขึ้นมา ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ เติบโตช้าๆตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อ ซี่งก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วเพราะบริษัทลักษณะนี้ปล่อยเงินกู้เยอ ไม่สำคัญเท่าปล่อยหนี้แล้วเก็บเงินได้ โดยรวมเท่าที่ดูก็ตามเก็บหนี้ได้อยู่
ทำไมตอนนี้ถึงน่าสนใจ
ตั้งแต่ต้นปี 2017 บริษัทมีความพยายามจะเปลี่ยนลักษณะการทำธุรกิจ โดยพยายามยกเลิกระบบตัวแทนอิสระเปลี่ยนมาเป็นจ้างพนักงานประจำแทน แล้วเอาระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตมาช่วยในการทำงานและติดตามผล โดยแนวคิดก็คือถ้าทำแบบนี้บริษัทน่าจะควบคุมการทำงานได้ดีขึ้นมีมาตรฐานมากขึ้น เช่นจากเดิมตัวแทนอิสระบางคนนิยมไม่ทำงานวันพฤหัสบดี หรือบางคนติดต่อลูกค้าช้าหลังจากได้รับการติดต่อจากลูกค้าแสดงความสนใจอยากได้เงินกู้ ปัญหาพวกนี้ก็น่าจะหมดไป
ผลปรากฎว่าระบบนี้สร้างปัญหา ตัวแทนอิสระลาออกเยอะกว่าที่บริษัทคาด ระบบไอทีที่บอกจะเอามาช่วยมีปัญหา เลยทำให้ยอดปล่อยกู้ลดลงเยอะมาก แถมบริษัทยังตามเก็บหนี้ได้น้อยลงเยอะด้วย
ช่วงปลายเดือนสิงหาคมในวันเดียวหุ้นตกมากกว่า 70% เนื่องจากบริษัทออกมาประกาศว่าปีนี้ผลประกอบการอาจติดลบ, ธุรกิจบัตรเครดิตกำลังมีโดนตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาล, จะงดจ่ายเงินปันผลปีนี้ และ CEO ลาออก
ในเวลาที่คนตื่นตระหนกแบบนี้สิถึงเป็นโอกาสของเรา เมื่อผมไปดูในรายละเอียดพบว่า
เรื่องธุรกิจบัตรเครดิตที่โดนตรวจสอบ สิ่งที่โดนตรวจสอบไม่ได้เป็นเรื่องซีเรียสอะไรมาก เนื่องจากไม่ใช่ตัวบัตรเครดิตแต่เป็นบริการเสริมอันนึงที่อาจจะมีปัญหา ต่อให้บริการเสริมนี้ถูกสั่งให้ยกเลิกการขายก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไร
เรื่องผลประกอบการติดลบ, งดจ่ายปันผล กับ CEO ลาออก CEO ลาออกก็ถูกต้องแล้ว ส่วนผลประกอบการที่มีปัญหามันก็มีจากที่เปลี่ยนแปลงระบบตัวแทนอิสระแค่นั้นเอง เท่าที่ดูก็เป็นปัญหาระยะสั้นที่แค่ย้อนกลับไปทำเหมือนเดิมก็จบละ แต่ประเด็นคือตอนเดือนสิงหาคมผมยังไม่ทราบทิศทางว่าสรุปบริษัทจะย้อนกลับไปทำรูปแบบเดิมมั้ยหรือยังไง
มาถึงตอนนี้เดือนตุลาคม สิ่งที่มันทำให้น่าสนใจมากคือทิศทางบริษัทเริ่มชัดเจนละ มีการจ้างตัวแทนอิสระที่ลาออกไปก่อนหน้านี้กลับเข้ามาทำงาน และเริ่มตามเก็บเงินได้มากขึ้นฟื้นขึ้นมาละ ส่วนสายธุรกิจอื่นที่เป็นบัตรเครดิต, สินเชื่อซื้อรถ และสินเชื่อออนไลน์ก็มีการเติบโตที่ดีเป็นปกติ
ราคาหุ้นตกลงมาจาก 3,000p ตกไปต่ำสุดเดือนสิงหาที่แถว 500p ซึ่งซื้อตอนนั้นก็กำไรโคตรไปแล้ว แต่ตอนนั้นทิศทางยังไม่ชัดเจน ตอนนี้บริษัทเริ่มฟื้นชัดเจนแล้ว ราคาที่แถว 900p ก็ยังเป็นอะไรที่ถูกมากถ้าสมมติบริษัทกลับมาเป็นปกติจริงๆ