As of June 30, 2018 ราคาหุ้นอยู่ 1.96 บาท
ช่วงที่ผ่านมานี้หุ้นในเอเชียตกลงมาพอสมควร รวมถึงหุ้นในไทยด้วย วันนี้จะพูดถึง BIG Camera ครับ บริษัทนี้เราเห็นร้านเค้าหลายครั้งละตามห้าง เพิ่งจะมาสนใจดูหุ้นของบริษัทนี้ก็เพราะเห็นราคามันตกลงมาเยอะมากเนี่ยแหละ
ลักษณะธุรกิจ
BIG Camera ชื่อมันก็บอกชัดเจนดี บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ค้าปลีกกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพผ่านร้านของตัวเอง โดยร้านจะอยู่ในห้างสรรพสินค้า ตามข้อมูลของบริษัทเค้าอ้างว่าส่วนแบ่งการตลาดของอุปกรณ์ถ่ายภาพเกิน 50% อยู่นิดนึงเลยทีเดียว ธุรกิจกลุ่มนี้เป็นธุรกิจหลักของบริษัททำรายได้อยู่ 91% ของทั้งหมด
นอกจากนี้ก็จะมีธุรกิจค้าปลีกมือถือกับอุปกรณ์ชื่อ BIG Mobile แต่ก็เป็นสัดส่วนรายได้ที่น้อยมากเมื่อเทียบกับทั้งหมด คิดเป็นแค่ 8% เท่านั้น ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไรในเวลานี้
ล่าสุดมีทำร้านที่ให้บริการพิมพ์ภาพ รายได้เป็นสัดส่วนแค่ 1%
ดังนั้นก็ชัดเจนมากว่าบริษัทนี้ธุรกิจขึ้นอยู่กับการขายปลีกกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ เข้าใจง่ายอยู่
แล้วที่ผ่านมาเป็นไง
ตลาดพวกกล้องช่วงนึงผมก็คิดว่าไม่น่าจะรอดแล้ว เพราะแต่ก่อนนู่นเลยกล้องที่ขายดีคือกล้อง Compact ที่ขนาดเล็ก ราคาไม่สูงมากจับต้องได้ ขายกับกลุ่มคนทั่วไปเอาไว้ถ่ายรูปตอนไปเที่ยวนู่นนี่ ซึ่งตลาดกล้อง Compact นี่ตายเลยตอนที่มือถือเริ่มถ่ายรูปได้ดีขึ้น คนก็ไม่รู้จะซื้อกล้องไปทำไมในเมื่อถ่ายด้วยมือถือก็คุณภาพพอๆกัน แถมมือถือยังต่ออินเตอร์เน็ทแชร์หรือโพสได้ทันดีด้วย ส่วนตลาดสำหรับพวกกล้อง DSLR ตัวใหญ่ก็ค่อนข้างจำกัด ตัวกล้องมันใหญ่และหนัก ที่สำคัญแพง ก็จะขายได้สำหรับคนกลุ่มที่ซีเรียสเรื่องคุณภาพของภาพมากๆเท่านั้น
โชคดีในช่วงปีหลังๆมานี้ มันมีกล้องกลุ่ม Mirrorless ถูกพัฒนาขึ้นมา คุณภาพของภาพดีกว่ากล้องมือถืออย่างเห็นได้ชัด ราคาไม่แพงเท่าพวก DSLR ก็เลยทำให้ได้รับความนิยม ตลาดกล้องเลยฟื้นกลับขึ้นมา
BIG Camera ก็เลยน่าจะได้รับอานิสงข์ขายดีไปด้วย สังเกตจากที่รายได้และกำไรโตขึ้นเยอะมากในช่วงไม่กี่ปีนี้ ผมเชื่อว่ามาจากปัจจัยเรื่องกล้อง Mirrorless เป็นหลัก บริษัทไม่ได้มีการขยายสาขาอะไรเยอะแยะ กำไรกับยอดขายมาจากของที่ขายได้เยอะขึ้นกับมูลค่าสินค้าที่ขายได้แพงขึ้น
ส่วนธุรกิจอื่นของ BIG Camera ก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ผมไม่ได้มองว่าเป็นสาระสำคัญอะไรในเวลานี้ แต่เข้าใจว่าทางบริษัทที่พยายามออกมาขยายกลุ่มธุรกิจอื่นก็น่าจะเป็นเพราะตลาดค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพน่าจะค่อนข้างอิ่มตัวแล้ว
ทำไมตอนนี้ถึงน่าสนใจ
ผลประกอบการล่าสุดของปีนี้ ดูเหมือนว่ายอดขายอุปกรณ์ถ่ายภาพของบริษัทไม่น่าจะเติบโตอะไรมากมายอาจจะน้อยลงนิดนึงด้วยซ้ำ เลยทำให้คนน่าจะตกใจ ราคาหุ้นเลยตกลงมาเยอะมาก
สมมติถ้าเราจะซื้อหุ้น BIG Camera เรื่องที่เราต้องนึกคือ
- ตลาดกล้องถ่ายรูป อนาคตมันจะยังทำได้อย่างน้อยคงที่ต่อไปหรือไม่
เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจ มันขึ้นอยู่กับว่ากล้อง Mirrorless กับ DSLR จะพัฒนาตัวเองหนีนวัตกรรมโทรศัพท์มือถือไปได้เรื่อยๆหรือเปล่า ถึงวันนึงถ้ากล้องมือถือมันคุณภาพดีมากๆขึ้นมาอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้กล้องพวกนี้เลยก็ได้ และถ้าไม่ต้องมีกล้องก็ได้ ก็แปลว่าไม่ต้องมี BIG Camera ก็ได้ เรื่องนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงจริงจังอยู่เหมือนกัน แต่ ณ วันนี้ดูเหมือนคุณภาพของ Mirrorless ก็ยังห่างกับมือถือทำให้คนยังยินดีซื้อกล้องพวกนี้อยู่นะ
- คนจะซื้อกล้องผ่านทางออนไลน์แทนหรือเปล่า
โดยทั่วไปสินค้าหรือของที่มีมูลค่าสูงผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะอยากเห็นของจริงอยากจับลองใช้ดูก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ และกล้องก็เป็นหนึ่งในของที่ผมเชื่อว่าคนจะอยากจับของจริงก่อนซื้อ แต่ล่าสุดผมเจอส่วนตัวเลยว่ามีคนซื้อของแบบนี้ทางออนไลน์อยู่เหมือนกัน รุ่นพี่ที่รู้จักกันเค้าซื้อกล้อง Canon ผ่าน Lazada ครับ ก็เลยทำให้นึกขึ้นมาเหมือนกันว่าถ้าคนอนาคตซื้อกันบนออนไลน์ BIG Camera ก็น่าจะอ้วกอยู่ แต่เรื่องนี้ผมว่ายังน่ากังวลน้อยหน่อย เพราะเท่าที่เห็นคนส่วนใหญ่ที่ซื้อกล้องก็ยังไปที่ร้านอยู่นะ
ส่วนตัวแล้วผม ถ้าเอาตามตรงผมก็คิดว่าตลาดกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพก็ไม่น่าจะเติบโตไปกว่านี้เยอะแยะ BIG Camera เองที่ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่งก็ไม่น่าจะขยายไปได้มากกว่านี้นักหนา มองว่าน่าจะทรงๆมากกว่า ส่วนสายธุรกิจใหม่อย่างค้าปลีกมือถือกับอุปกรณ์ก็นึกไม่ออกว่ามันจะมีอะไรเด่นกว่าคุ่แข่งเดิมดังนั้นก็ไม่คิดว่าจะเป็นสาระสำคัญ ธุรกิจที่พิมพ์ภาพก็ไม่น่าจะเป็นสาระเช่นกันเพราะคนที่จะสนใจพิมพ์ภาพออกมาเป็นแผ่นใหญ่ๆก็ไม่น่าจะเยอะ
ที่น่าสนใจอย่างเดียวเลยสำหรับผมคือตอนนี้ราคามันถูกครับ อย่าง 2 ปีล่าสุดกำไรต่อหุ้นอยู่ 0.24 กับ 0.22 บาท ถ้าเอาแบบหยาบๆว่าปีนี้และต่อๆไปกำไรต่อหุ้นจะอยู่ที่ 0.2 บาทต่อหุ้น ราคาตอนนี้ 1.96 บาท คิดเป็นอัตรากำไร 10.2% ก็ไม่เลวอยู่นะ ขอแค่บริษัททำได้เท่าๆเดิมไปตลอดเท่านั้นเอง
Disclosure
ปัจจุบันผมไม่ได้มีหุ้นใน BIG Camera แต่มีโอกาสที่จะลงทุนใน BIG Camera ในอนาคตถ้าราคาตกลงมาอีก
ผมเขียนบทความนี้ด้วยตัวเองและเขียนจากความเห็นส่วนตัว ผมไม่ได้รับค่าตอบแทนใดหรือมีผลประโยชน์ทางธุรกิจใดๆกับบริษัทที่ผมพูดถึงในบทความนี้