ถ้าผมคิดได้แบบนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มลงทุน วันนี้จะรวยกว่านี้เยอะเลย ในอดีตยอมรับว่าเคยเห็นหุ้นเป็นตัวเลขวิ่งๆบนกระดานเหมือนกัน อารมณ์คล้ายๆกับไฮโลเลยนะ แต่วันนี้กลับตัวละก็เลยอยากเขียนอะไรให้เรานึกเล่นๆ
-
จริงอยู่ที่ในช่วงระยะสั้นราคาหุ้นขึ้นกับมุมมองตลาด แต่คุณว่าคนเราจะบ้าได้ซักกี่ปี
ผมเรียนไฟแนนซ์มาเนอะ เราก็จะมีรุ่นพี่และอาจารย์ที่อยู่ในสายงานนี้พอสมควร ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าเออตลาดหุ้นนี่มันไม่ได้เป็นตามทฤษฎีนะ บางทีหุ้นของกิจการที่ดีราคาตกก็มี หรือบางทีกิจการแย่ๆเดี๋ยวราคาขึ้นแล้วขึ้นอีกก็มี ซึ่งพอผมเริ่มลงทุนช่วงแรกก็เห็นแบบนั้น และเชื่อว่าคุณผู้อ่านก็น่าจะเคยเห็นเหมือนกัน
แต่พอศึกษาดูดีๆภายหลังผมพบว่า ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นมันขึ้นหรือลงเป็นไปตามผลประกอบการของบริษัท
ไปลองพิสูจน์ดูด้วยตัวเองครับ ลองเปิดกราฟราคาหุ้นตัวไหนก็ได้ย้อนหลังซักอย่างน้อย 10 ปี (www.morningstar.com มีให้ดูย้อน) แล้วดูเทียบกับกำไรสุทธิช่วงเดียวกัน มันจะเห็นชัดมากว่าสองกราฟนี้เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน
ซึ่งมาลองคิดดูก็ไม่น่าแปลกใจ สมมติง่ายๆลองนึกตาม
- กิจการที่ไม่ดี ช่วงสั้นๆถ้าคนมีทัศนคติดีราคาก็อาจจะขึ้นไปได้ แต่ถ้ากิจการขาดทุนมากขึ้น ขาดทุนหนักขึ้นเรื่อยๆปีแล้วปีเล่า คุณว่าคนจะทัศนคติดีได้ซักกี่ปี
- ในทางกลับกัน กิจการที่ดี ต่อให้ช่วงนี้คนทัศนคติไม่ดีไม่ชอบราคาตก แต่ถ้ากิจการกำไรดีขึ้นปันผลมากขึ้น กำไรดีขึ้นปันผลมากขึ้นเรื่อยๆปีแล้วปีเล่า คุณว่าคนจะทัศนคติไม่ดีได้ซักกี่ปี
-
มันแล้วแต่เราเลือก เรากำลังลงทุนเอาสนุก หรือเราลงทุนเอากำไรเยอะๆ
เราเลือกได้ว่าจะลงทุนแบบไหนเพราะมันเงินของเรา
ลงทุนหวังผลระยะสั้น ลงทุนลักษณะนี้ต้องเข้าใจว่าอารมณ์ตลาดและทัศนคติของคนเป็นปัจจัยหลัก ดังนั้นวิธีการลงทุนก็คือพยายามจะเดาใจคนอื่น ถามหลักๆเลยคืออาทิตย์หน้าหรือเดือนหน้า ราคาหุ้นนี้จะขึ้นหรือลง คนอื่นจะอยากซื้อหรืออยากขาย เน้นจิตวิทยาเป็นหลัก
ลงทุนหวังผลระยะยาว ลงทุนลักษณะนี้ต้องเข้าใจว่าผลประกอบการของกิจการเป็นปัจจัยหลัก วิธีการลงทุนก็คือพยายามเดาทิศทางของธุรกิจ ถามหลักๆเลยคือบริษัทนี้อย่างน้อย 4-5 ปีข้างหน้า จะทำกำไรได้ดีขึ้นหรือแย่ลง ลักษณะการแข่งขันจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ เน้นตัวกิจการเป็นหลัก
โดยส่วนตัวผมสรุปข้อดีของสองแบบนี้ไว้ดังนี้
- ลงทุนสั้นสนุกกว่า ตื่นเต้นกว่ากันเยอะ คือมันมีอะไรต้องลุ้นเยอะเพราะอารมณ์คนกับตลาดมันเปลี่ยนแปลงได้เกือบทุกวัน มีเรื่องให้ไปคุยกับเพื่อน เช่น ตัวนี้วันนี้เป็นไง ตัวนั้นวันนี้ลงแรงนะคิดว่าไง ตัวนู้นน่าจะดีมั้ยจะราคาวิ่งมั้ย ฯลฯ แต่ถ้าพูดถึงกำไร ส่วนใหญ่วิธีนี้จะกำไรบ้างขาดทุนบ้าง ถัวไปถัวมาผลลัพธ์ก็มักจะงั้นๆ เพราะการเดาใจมนุษย์ให้ถูกตลอดมันยาก มันก็จะถูกๆผิดๆอยู่นั่น
- ลงทุนยาวกำไรง่ายกว่า เพราะเราต้องพิจารณาแค่ตัวธุรกิจ ไม่ได้ต้องเดาเป๊ะด้วย แค่ประมาณคร่าวๆถูกก็ใช้ได้ ไม่ต้องสนใจอารมณ์ตลาดหรือคนอื่น แต่ลงทุนแนวนี้น่าเบื่อกว่าเยอะ เวลาหาข้อมูลก็เป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ อย่างงบการเงินออกถี่สุดก็สามเดือนครั้ง ซึ่งงบรายไตรมาสปกติก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรนัก ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหวือหวาให้ต้องลุ้น
ลองไปนึกดูดีๆ ไปเปิดดูกราฟราคาระยะยาวเทียบกับผลประกอบการ ลองถามตัวเองดู ว่าสรุปถ้าหุ้นคือกิจการ และราคาหุ้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับตัวธุรกิจ อย่างนั้นเราเอาเวลามาศึกษาตัวกิจการจริงๆจังๆจะเป็นประโยชน์กว่ามั้ย น่าจะดีกว่านั่งดูตัวเลขเขียวๆแดงๆวิ่งขึ้นวิ่งลงทุกเช้า -กลางวัน -เย็นมั้ย
Please note: I reserve the right to delete comments that are offensive or off-topic.