หุ้นแบบไหน ที่ผ่านมาชนะตลาด ?
มันมีคนถามผมอยู่เหมือนกันว่าเรื่องการลงทุนในหุ้นนี่ ในเมื่อตลาดหุ้นก็อยู่มาตั้งนานแล้วและเรามีข้อมูลย้อนหลังทั้งงบการเงินและราคาหลายปีมาก ทำไมเราไม่มีคำตอบที่ชัดเจนซะทีว่าลงทุนในหุ้นแบบไหนถึงจะให้กำไรสูงสุด มันยังไม่มีคนไปศึกษาจริงจังหรือไง
จริงๆมันมีการศึกษาเยอะอยู่ครับ วันนี้ผมมาเล่าให้ฟังถึง Factor หรือลักษณะของหุ้น 6 อย่างที่เค้าศึกษาแล้วพบว่าโดยรวมให้ผลตอบแทนสูงกว่าปกติในระยะยาวครับ
1. Value
อันนี้คือหุ้นที่ราคาที่ต่ำเทียบกับตัวเลขปัจจัยพื้นฐานบางอย่างของหุ้นเช่นกำไร, มูลค่าทางบัญชี, ยอดขายหรืออื่นๆ ที่ได้รับความนิยมก็จะเป็นตัวราคาเทียบกับ Book value (มูลค่าทางบัญชี)
2. Size
เค้าพบว่าบริษัทที่ขนาดเล็กผลตอบแทนดีกว่าบริษัทขนาดใหญ่ ใหญ่เล็กในที่นี้วัดจาก Market Capitalization
3. Yield
หุ้นที่ Dividend yield หรือปันผลต่อราคาหุ้นสูงจะให้ผลตอบแทนดีกว่า
4. Momentum
เค้าพบว่าราคาหุ้นมีพฤติกรรมที่เป็นเทรนด์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หุ้นที่ขึ้นก็มักจะขึ้นต่อไปซักพัก หุ้นที่ราคาตกก็มักจะตกต่อไปซักพัก ดังนั้นวิธีการก็คือลงทุนในหุ้นที่ในช่วงที่ผ่านมาผลตอบแทนดีกว่าตลาด เพราะมันจะมีแนวโน้มที่จะผลตอบแทนดีกว่าตลาดต่อไปอีกซักพัก ระยะเวลาที่เค้าเจอว่า Momentum ยังมีผลก็จะประมาณ 3-12 เดือน
5. Quality
อันนี้พูดถึงโดยรวมว่าบริษัทที่ปัจจัยเชิงคุณภาพดีกว่าเฉลี่ยให้ผลตอบแทนดีกว่า ปัจจุบันยังไม่ได้มีว่า “คุณภาพ” ที่ว่านี่คือเรื่องอะไรกันแน่ มีทั้งที่บอกดู ROE, การเติบโต, ความสม่ำเสมอของกำไร, D/E ต่ำ, กระแสเงินสดเทียบกับกำไร, ฯลฯ
6. Volatility
อันนี้เป็นอันที่แปลกที่สุดละ คือเค้าพบว่าตรงกันข้ามกับทฤษฎีที่บอกว่าหุ้นที่มีความผันผวนสูงก็ควรจะผลตอบแทนสูง ปรากฎว่าสิ่งที่เค้าเจอคือหุ้นที่ความผันผวนต่ำดันผลตอบแทนสูงกว่าไม่สอดคล้องกับทฤษฎี
น่าสนใจมะ ทั้งนี้ผมย้ำอีกทีว่านี่คือการศึกษาโดยรวมไม่ได้ดูไปที่หุ้นใดหุ้นหนึ่ง เค้าไม่ได้บอกว่าหุ้นขนาดเล็กหรือหุ้นที่ P/BV ต่ำต้องผลตอบแทนดีทุกบริษัทนะ เค้าพูดถึงโดยรวม และอีกอย่างที่อยากจะย้ำคือเค้ากำลังพูดถึงผลตอบแทนระยะยาวหลายปี ที่บอกผลตอบแทนดีกว่าเฉลี่ยนี่คือถ้าวัดกันช่วงยาวๆ สิ่งที่เค้าเจอคือ Factor พวกนี้ถ้าดูกันสั้นๆมันดีบ้างไม่ดีบ้าง อย่าง Momentum เค้าก็พบว่าอาจจะ underperform ตลาดอยู่หลายปีแล้วค่อยกลับมาดี ถ้าลงทุนวัดกันช่วงสั้นเกินไปก็อาจจะพบว่า Factor พวกนี้ผลตอบแทนห่วยก็ได้
สำหรับคนที่สนใจอ่านเพิ่มเติม ผมแนะนำว่ามีบทความทำโดย MSCI ที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีมาก เก่าหน่อยแต่อ่านง่ายเรียบเรียงดีและเค้ามี references ตัวงานวิจัยแต่ละหัวข้อให้เผื่อไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยครับ
ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ
หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂
ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/
หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg
ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/
หรือ ทดลองเรียนฟรี