เวลาเค้าบอกลงทุนในหุ้นเราต้องมีการกระจายความเสี่ยงนะ บางคนงงว่าอะไรคือกระจายความเสี่ยง ทำไมต้องทำด้วย แล้วกระจายยังไงดี วันนี้เรามาอธิบายพูดคุยเรื่องนี้กัน
การกระจายความเสี่ยงว่าง่ายๆคือ เรากระจายการลงทุนของเราไปซื้อหุ้นหลายๆตัว เพื่อให้โดยรวมแล้วทั้งพอร์ตเราผลตอบแทนสม่ำเสมอมากขึ้น และมีความเสี่ยงลดลง เพื่อให้เห็นภาพนึกตามนะ
สมมติมีธุรกิจ 2 บริษัท บริษัทนึงทำรีสอร์ท อีกบริษัทหนึ่งผลิตร่ม สองบริษัทนี้ผลประกอบการขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ปีไหนอากาศดีรีสอร์ทก็ทำได้ดีส่วนบริษัททำร่มก็จะขายไม่ดี กลับกันถ้าปีไหนอากาศไม่ดีรีสอร์ทก็จะธุรกิจไม่ดีส่วนร่มขายดี สมมติว่าผลตอบแทนจากหุ้นของสองบริษัทนี้เป็นดังต่อไปนี้
อากาศดี อากาศไม่ดี
ธุรกิจรีสอร์ท +50% -25%
ธุรกิจร่ม -25% +50%
สมมติถ้าโอกาสที่ทั้งปีจะอากาศดีหรืออากาศไม่ดีเป็น 50-50
ถ้าเราซื้อหุ้นรีสอร์ทอย่างเดียว ผลตอบแทนเฉลี่ยที่น่าจะได้คือ 12.5% แหละ แต่ว่าแต่ละปีอาจจะแกว่งรุนแรง
ถ้าเราซื้อหุ้นร่มอย่างเดียว ผลตอบแทนเฉลี่ยที่น่าจะได้คือ 12.5% เหมือนกัน และแต่ละปีอาจจะแกว่งรุนแรง
แต่ถ้าเราแบ่งเงิน ซื้อทั้งสองบริษัทอย่างละครึ่งๆล่ะ ผลตอบแทนเราจะเป็น 12.5% เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความแน่นอน เพราะไม่ว่าอากาศดีหรือไม่ดี เราจะกำไรอยู่ 12.5% แน่นอน
นี่เป็นตัวอย่างว่าการกระจายความเสี่ยงจะช่วยเราได้อย่างไร
ทีนี้ต่อไปคือกระจายอย่างไรดี การกระจายความเสี่ยงถ้ามันจะได้ผลคือ มันต้องลงทุนในหุ้นที่ไม่เกี่ยวกันหรือโดนผลกระทบไปทางเดียวกัน
เช่นสมมติเรากระจายความเสี่ยงโดยการซื้อหุ้นธนาคารทั้งหมด เกิดมีฟองสบู่คอนโดหรืออะไรเกิดขึ้น มันก็จะโดนทุกธนาคารและหุ้นเราก็จะเละทั้งหมดอยู่ดีแม้ว่าจะถือหุ้นอยู่หลายตัว
แต่สมมติเรากระจายความเสี่ยงไว้หลากหลาย มีหุ้นธนาคาร, ค้าปลีก, น้ำประปา ฟองสบู่คอนโดเกิดขึ้นก็อาจจะมีผลต่อหุ้นธนาคารเราแต่ไม่มีผลกับหุ้นน้ำประปา อะไรประมาณนี้
กล่าวโดยสรุป การกระจายความเสี่ยงก็คือลงทุนในหุ้นหรือทรัพย์สินหลายประเภท ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงกรณีไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น ผมส่วนตัวสนับสนุนการกระจายความเสี่ยงแหละ แต่ทีนี้มันก็มีจุดที่กระจายเกินไปเหมือนกัน ผมเคยเขียนบทความว่าควรถือหุ้นกี่ตัวเอาไว้ สามารถไปอ่านต่อได้ถ้าสนใจ